Skip to main content

สิ้นเสียงคุย สิ้นเสียงปืน สิ้นเสียงลมหายใจ (อีหม่ามและภรรยา คอลอกาปาส์ กะพ้อ)


Jurnalis  Desa (JD)
นักข่าวชาวบ้าน
BungarayaNews

      “ ฉันได้ตะโกนเรียก “แมะ” (แม่)  แต่ไม่มีเสียงตอบรับจาก แมะ  ทำให้ฉันต้องเดินลงไปดูข้างล่าง  ทำให้เห็นสภาพ........”

      นางสาวสือไฮลา  ยีวาแต  บุตรสาวของ  นายดอแม็ง  ยีวาแต  โต๊ะอีหม่ามบ้านคอลอกาปาส์  พร้อมภรรยา  นางกรือซง  โต๊ะดา  ที่ถูกคนร้ายซุ่มยิ่งจนเสียชีวิต

      หลังเสร็จจากการทำพิธีละหมาดอีซา  สองสามีภรรยา  นายดอแม็ง  และนางกรือซง  ก็เดินเท้ากลับไปยังบ้าน  ระยะทางเพียงประมาณ 100 เมตร  แต่ห่างจากถนน  ประมาณ 50 เมตร  เสียงพูดคุยสนทนากันไม่ได้ดังมากนัก  แต่เพราะความเงียบในหมู่ทำให้เสียงสนทนาได้ยินมาถึงบ้านของทั้งสอง  ซึ่งบุตรสาวกำลังรอทั้งคู่กลับมา

      เสียงพูดคุย  เงียบลง    แต่ !!

      เสียงดัง  ของการกระทบกันของนกปืน กับลูกตะกั่ว  ดัง ปัง ! ปัง !  ขึ้นมา  หลายนัดติดต่อกัน

      บุตรสาวคิดเพียงว่า  เด็กอาจเล่นประทัด แถวๆ บ้าน

      เลยตะโกนเรียก  “แมะ”  ผู้เป็นแม่  ดูว่า  แกตกใจหรือไม่  เรียกหลายครั้ง  แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ  จึงได้ถามเพื่อนบ้าน

      “เห็นแมะหรือเปล่า? ”

      เพื่อนบ้าน   “ก็เห็นเดินเท้ากลับมาพร้อมกัน  เมื่อสักครู่ก็ได้ยินเสียงพูดคุยนะ”

      ฉันได้ตะโกนเรียก “แมะ” (แม่)  แต่ไม่มีเสียงตอบรับจาก แมะ  ทำให้ฉันต้องเดินลงไปดูข้างล่าง  ทำให้เห็นสภาพ........ !!

      เสียงดังของปืนหยุดลง

      เธอวิ่งลงไปข้างล่าง  เห็นสภาพของแมะ และอาเยาะ  ล้มลงข้างบันได  แมะหมดสติ  แต่อาเยาะหายใจเฮือกสุดท้าย  เลยตะโกนขอให้คนช่วย

      เธอ รอการช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านประมาณ 10 นาที   เมื่อรถยนต์มาถึงจึงได้นำร่างทั้งสองนำขึ้นรถพาไปยังโรงพยาบาลกะพ้อ

      ในขณะที่ยกร่างของแมะขึ้นมา  ทำให้เลือดซึมผ่านผ้าละหมาดแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ถูกกระสุนทะลุผ่านส่วนคอไปแล้ว  และคร่าชีวิตผู้เป็นแมะของเธอไปแล้วคนหนึ่ง  (อินนาลิลลาฮี วาอินนา อีลัย ฮีรอ ญีอูน)

      ยังเหลืออีกชีวิต  อาเยาะ  คิดว่ายังมีลมหายใจอยู่  แต่ไปได้ไม่ไกล  และไม่ทันรถพาไปถึงมือหมอ  ลมหายใจก็สิ้นจบหมดลงไปบนรถเป็นรายต่อมา   (อินนาลิลลาฮี วาอินนา อีลัย ฮีรอ ญีอูน)

      รถพาร่างอันไร้วิญญาณ ของทั้งคู่ไปถึงโรงพยาบาล  เมื่อแพทย์ทำการตรวจร่างกายเสร็จสิ้น  เธอก็ได้พาร่างกลับไปยังบ้าน  เพื่อทำพิธีตามหลักศาสนาอิสลาม

      สำนักข่าวรายงานข่าวเหตุการณ์อย่างปกติ

      เนชั่นทันข่าว

เวลา 20.30 น. พ.ต.อ.กล้าณรงค์ เผือกคุ้มกฤษ ผกก.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต บนถนนภายในหมู่บ้านคอลอกะปะ ม. 6 ต.กรุบี รายงานให้ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก. พร้อมนำกำลังไปที่เกิดเหตุ ไปถึงพบผู้เสียชีวิต 2 รายนอนตายจมกองเลือด ทราบชื่อ นายดอเม็ง ยีวาแต อายุ 59 ปี เป็นโต๊ะอีหม่าม อยู่บ้านเลขที่ 34 ม. 6 ต.กรุบี และ นางกรือซง โต๊ะดา อายุ 53 ปี ภรรยา ทั้งสองถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าลำตัว

สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่ผู้ตายไปทำละหมาดที่มัสยิดภายในหมู่บ้าน เสร็จแล้วทั้งสองจึงได้เดินกลับบ้านพักซึ่งอยู่ห่างประมาณ 100 เมตร ปรากฏว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ข้างทางก่อนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิตทันที สาเหตุเชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์

                    ........................................
     
      เดลินิวส์

เวลา 20.30 น. พ.ต.อ.กล้าณรงค์ เผือกคุ้มกฤษ ผกก.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายบนถนนภายในหมู่บ้านคอลอกะปะ หมู่ 6 ต.กรุบี จึงรีบไปตรวจสอบพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายดอเม็ง ยีวาแต อายุ 59 ปี เป็นโต๊ะอิหม่าม อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 6 ต.กรุบี และนางกรือซง โต๊ะดา อายุ 53 ปี ภรรยา ทั้งสองถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าลำตัว

สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะผู้ตายไปทำละหมาดที่มัสยิดภายในหมู่บ้าน เสร็จแล้วทั้งสองจึงเดินกลับบ้านซึ่งอยู่ห่างประมาณ 100 เมตร ปรากฏว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ข้างทาง แล้วใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิตคาที่ คาดผู้ลงมือต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ

                    ........................................

       การเสียชีวิตเป็นการลงมือของ....ผู้ใด ?

       คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ

      ลูกชายอีกคนเดินทางกลับมาถึงบ้าน  นายสุไฮมิง  ยีวาแต  กลับมาจากการไปเรียนกีตาบ  ที่ปอเนาะพ่อมิ่ง หรือโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม  ต.พ่อมิ่ง  อ.ปะนาเระ  จ.ปัตตานี

      เวลา  23.00  รถกลับมาถึงบ้าน ได้พาร่าง  แมะ และอาเยาะของทั้งคู่กลับมา  ทั้งคู่มองเห็น  เจ้าหน้าที่ทหาร  และตำรวจมากมายมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

      1 นาฬิกาเศษ  ได้ทำพิธีละหมาดศพและฝั่งศพของทั้งสอง

      ครอบครัว  ยีวาแต  หลงเหลือ 2 พี่น้อง   นางสาวสือไฮลา  ยีวาแต   ปัจจุบันเป็นครูพี่เลี้ยง โรงเรียนบ้านบาโงมือแบ  และนายสุไฮมิง  ยีวาแต  นักเรียนโรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม  ต.พ่อมิ่ง  อ.ปะนาเระ  จ.ปัตตานี 

      เหลือเพียงพี่สาวที่ต้องใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้เพียงคนเดียว  เพราะน้องชายคงต้องไปเรียนต่อที่ปอเนาะพ่อมิ่ง

      “อาเยาะ  เป็นโต๊ะอีหม่าม ที่เป็นที่เคารพรักของผู้คนในหมู่บ้านนี้  แกไม่เคยมีเรื่อง หรือความขัดแย้งกับใครเลย”  ลูกสาวแกกล่าวปิดท้าย  ก่อนที่ ผู้ใหญ่บ้านจะพาเธอไปสถานีตำรวจภูธรกะพ้อ  เพื่อแจ้งความ  ในขณะที่ทางทีมผู้ช่วยทนายความกำลังสอบถามรายละเอียด

 
http://www.bungarayanews.com/news/view_news.php?id=512