Skip to main content

 

บนเส้นทางของนักวิชาการ บนเส้นทางของนักพัฒนา ห้วงเวลากับบททดสอบ ไม่ง่ายเลยที่จะเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ของประสบการณ์ในมิติชาวบ้าน มิติชีวิตที่มีอยู่จริงของพื้นที่สามจังหวัดฯ พื้นที่แห่งจินตนาการของการค้นหาคำตอบความสันติสุขที่แท้จริง...
      จะทำอย่างไรเมื่อสิ่งที่ประชาชนทำ ประชาชนต้องการหน่วยงานภาครัฐ (บางหน่วยงาน) กลับหลับหูหลับตาเดินสวนทางกับความต้องการที่แท้จริงของประชาชน?
      จะทำอย่างไรเมื่อนักวิชาการ  ยังคงนั่งโต๊ะ บอกเล่าเรื่องราวผ่านแว่นที่สวมผิดเลนส์?
      จะทำอย่างไรให้เวทีเรียนรู้ของคนสามฝ่ายสร้างพลังทางปัญญา แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง บนเส้นทางการขับเคลื่อนการพัฒนาที่มีชีวิต?
      ไม่ง่ายเลยที่จะร่วมหาคำตอบ และหาทางออกของคำถามข้างต้น...
 
                          
 
                                              (อีกมุมที่สื่อสะท้อนออกมาในความต้องการ และ
                                                อยากผลักดันร่วมกันให้สาธารณชนได้เข้าใจ)
 
       เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาได้รับการทาบทามให้ร่วมเรียนรู้การทำงานที่มีชีวิต จากนักวิจัยท่านหนึ่งของศูนย์ศึกษาและพัฒนาธรรมาธิปไตย เพื่อร่วมระดมความคิดผลักดันการพัฒนาในมิติที่พอจะช่วยและทำได้ โดยมีองค์กรภาคีประกอบด้วยภาคประชาชน ผู้นำเยาวชน นักวิชาการ (นำทีมโดย อ.บงกช นพวงศ์  ณ อยุธยา... สตรีดีเด่นประจำปี ๒๕๕๓ ด้านการสร้างสันติภาพสันติสุขในพื้นที่ฯ และคณะ) นักพัฒนา (นำทีมโดย อ.อเนก นาคะบุตร อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อดีตผู้อำนวยการโครงการกองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคม เข้านั่งบริหารกองทุนเพื่อสังคมของธนาคารโลกหลังวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี พ.ศ. 2540 และคณะ) และ ศูนย์บูรณาการการพัฒนาพื้นที่พิเศษ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศพชต.)
       เวทีแห่งการร่วมเรียนรู้การทำงานของทั้งสามฝ่าย อาทิ ภาคประชาชน นักวิชาการ และ รัฐ สิ่งที่ทำให้ผมได้เห็นคือภาพของการมีอยู่จริงในพื้นที่สามจังหวัดฯ และการผสานความร่วมมือที่มิใช่เพียงการประสานด้วยหน้าที่แต่คือการถอดใจใน การร่วมทำงานทิ้งยศฐาบรรดาศักดิ์ที่ทุกคนมีอยู่ร่วมขับเคลื่อนผลักดันการ พัฒนาสันติสุขให้เกิดขึ้นในมุมที่ทุกคนพอจะมีพละกำลังจะรังสรรค์ความงด งามออกมาได้ เพราะพลังความงดงามของจิตใจ (ความจริงใจ) จะสร้างจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันที่มีทิศทางอย่างมีชีวิตจริงๆในการขับ เคลื่อนงานพัฒนาพื้นที่แห่งนี้
         เราต้องก้าวข้ามการคอร์รัปชัน  เราต้องก้าวข้ามความอคติมูลฐาน  เราต้องก้าวข้ามนัยยะทางการเมือง เราต้องก้าวข้ามเรื่องผลประโยชน์ เพราะ เราต้องมองผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจริงๆของประชาชน
       ผมยังเชื่อว่า...ทุกอย่างยังคงมีความหวังขอเพียงพลังของความจริงใจ ตั้งใจ (จริง) บนลู่วิ่งของถนนสายนี้ และยังเชื่อว่าแผ่นดินจินตนาการแห่งนี้ยังมีเรื่องราวอีกมากมายของความงดงาม ที่ชวนสัมผัส แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ คือ บทพิสูจน์ที่เราทุกคนต้องร่วมฟันฝ่าหาทางออกกันต่อไปเพราะมันไม่ใช่แค่แสง สว่างของความต้องการเฉพาะพื้นที่แต่มันคือวิถีแห่งความหวังของทุกคน (ด้วยความหวังและดุอาอฺ)

 
                                                                              บันทึกโดย...เสียงเล็กๆ
                                                                            ๒๖  ส.ค.  ๒๕๕๓ / ๑๑.๒๑ น.
อ้างอิงข้อมูลจาก