Skip to main content

 

ข่าว 3 มิติ ตรวจสอบสาเหตุจลาจลเรือนจำกลางปัตตานี

(ชมย้อนหลังคลิกที่รูป)

 

 

เรือนจำกลางปัตตานี ย้ายผู้ต้องขัง 335 คนไปเรือนจำอื่นชั่วคราวเพื่อสอบสวนกรณีก่อเหตุจราจล ส่งผลให้ผู้ต้องขัง 3 คนเสียชีวิตเมื่อวานนี้ ส่วนสาเหตุมาจากผู้ต้องขังที่ไม่พอใจการเข้มงวดเรื่องยาเสพติด รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังคดีความมั่นคง 50 คนในเรือนจำ โดยเฉพาะ นายอันวาร์ หะยีเต๊ะ ที่มีชื่อในเอกสารข้อเรียกร้อง ไม่ใช่แกนนำก่อเหตุแต่เป็นล่ามที่คอยช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการเจรจา

ปลัดกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า แกนนำก่อเหตุจราจล 2 คน คือนักโทษชาย แวอุสมาน แวสาเมาะ และนักโทษชาย อัสวีร์ ดอเลาะ มีคดีลักทรัพย์ และยาเสพติด ไม่ใช่คดีความมั่นคง เหตุครั้งนี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับ นาย มูฮาหมัด อัณวัร หะยีเต๊ะ หรือ อันวาร์ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ที่มีการแชร์ข้อความข้อเรียกร้องของผู้ต้องขังระบุว่า อันวาร์เป็นแกนนำ จึงไม่จริง

นายนพพร รัตนวัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี ยืนยันว่าเอกสารข้อเรียกร้องไม่ได้ออกไปจากเรือนจำ ขณะที่นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันกับนางสาว รอมือละห์ แซเยะ ภรรยาของอันวาร์ ว่า อันวาร์ ปลอดภัยและขอบคุณที่ได้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ด้วย

 

 

ปลัดกระทรวงยุติธรรมจึงขอร้องไม่ให้มีการนำเหตุจราจลในเรือนจำกลางปัตตานีไปขยายความว่าเป็นการก่อเหตุทางความมั่นคง แต่มาจากความไม่พอใจของผู้ต้องขังที่พบว่าแกนนำเป็นคนก่อเหตุเผาเรือนจำกลางสงขลาเมื่อปี 2558 จึงต้องดำเนินคดีผู่ร่วมก่อจราจลในครั้งนี้

สำหรับเหตุการณ์เริ่มจาก มาตรการเข้มงวดเรื่องตรวจโทรศัพท์ ยาเสพติด และการออกกำลังกาย ที่นาย กาจก้อง รัตนะ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง เริ่มทำจริงจังเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้ 2แกนนำผู้ต้องขัง ไม่พอใจ จนมีรายงานจะทำร้ายหวังจะฆ่าเจ้าหน้าที่และก่อเหตุจราจล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานีจึงเตรียมจะย้ายแกนนำ 2 คนเมื่อค่ำวานนี้ แต่มีการก่อเหตุเสียก่อนในเวลา 16 นาฬิกา โดยแกนนำและพวกกว่า 200 คน พากันรวมตัวที่ลานกิจกรรม ก่อนจะขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ที่อาคารควบคุม ทำให้นายกาจก้อง และเจ้าหน้าที่ 3 นายบาดเจ็บ ก่อนที่จะเริ่มเผาอาคารฝ่ายควบคุม เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาแต่ไม่สำเร็จ และในเวลา 21.20น.เริ่มเผาประตูเรือนจำที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแหกหักหลบหนีออกนอกเรือนจำ จึงต้องส่งมอบพื้นที่ให้ตำรวจ ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลา 23 นาฬิกา

เหตุรุนแรง ส่งผลให้ นช.เกียรติศักดิ์ จันทร์ด้วง นช.เสริม จันทร์สุนทร และ นช.สุอนันต์ ป้องซ้าว เสียชีวิต จึงต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัว เพราะทั้ง 3 เป็นนักโทษชั้นดี ส่วนสาเหตุกำลังชันสูตรให้แน่ชัดแต่มาจากเพลิงไหม้ กระทรวงยุติธรรม ยืนยันจะเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ต้องขังที่บาดเจ็บอีก 7 คน ส่วนข้อเรียกร้อง เช่นการให้นำอาหารไปทานในห้อง เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้เพราะจะให้เฉพาะในเดือนรอมฏอน รวมทั้งการเข้มงวดเรื่องยาเสพติดกรมราชทัณฑ์จะต้องทำต่อ แต่อาจปรับวิธีการให้เหมาะสม ขณะที่ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 4 ล้านบาท มาจากอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ 3 หลังแต่ไม่กระทบความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังที่มีกว่า 1,600 คนหลังย้ายไปเรือนจำอื่นชั่วคราว 335 คน โดยวันนี้นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมาร่วมติดตามเรื่องนี้ด้วย

 

‪#‎krobkruakao3 ‪#‎ครอบครัวข่าว3 ‪#‎ข่าว3มิติ