Skip to main content
 
สรุปการให้สัมภาษณ์ของ
Prof.Dr. Umar Ubaid Hasnah
ผอ.สถาบันวิจัยและอิสลามศึกษา
กระทรวงศาสนสมบัติและกิจการอิสลาม กาตาร์
เนื่องในสัมมนาอิสลามศึกษานานาชาติ มอ.ปัตตานี
เรื่อง Islamic Value in Changing World 
ณ วิทยาลัยอิสลามศึกษา มอ.ปัตตานี
 

ในเบื้องต้นกระผมใคร่ขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้โอกาสแก่พี่น้องมุสลิมในประเทศไทยปฏิบัติคำสอนศาสนาอย่างอิสระเสรี ซึ่งบรรยากาศเช่นนี้ เราไม่ค่อยพบเห็นมากนัก แม้กระทั่งในบางประเทศอิสลามก็ตาม

 
กระผมขอสื่อสารไปยังพี่น้องมุสลิมในประเทศไทยว่า ท่านทั้งหลายไม่ใช่ประชาชนชายขอบ แต่บทบาทของท่านในสังคมนี้มีความสำคัญและโดดเด่นยิ่ง เพราะเป็นการต่อยอดของบรรพชนอิสลามมาตั้งแต่ 14 ศตวรรษที่ผ่านมา เป็นการสานต่อของโครงการสร้างอารยธรรมอิสลามที่ยิ่งใหญ่และต่อเนื่อง
 
ขอชื่นชมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่ได้จัดสัมมนานานาชาติครั้งที่ 3 ในครั้งนี้ ซึ่งมรรคผลของการสัมมนาในครั้งจะไม่เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่จะแพร่ขยายไปทั่วโลกอีกด้วย เพราะบทบาทของมหาวิทยาลัย มิได้มีจำกัดเพียงแค่ในห้องเรียนอันคับแคบ แต่พร้อมเป็นผู้นำทางวิชาการ ขับเคลื่อนและพัฒนาองค์ความรู้ภายใต้บรรยากาศของการสร้างความเข้าใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ซึ่งมหาวิทยาลัยฯได้ปฏิบัติภารกิจนี้ได้อย่างน่าชื่นชมยิ่ง

บทบาทในการสัมมนาในครั้งนี้ นอกจากสร้างคุณค่าทางอารยธรรมอันสูงส่งแก่มนุษย์แล้ว ยังเป็นการกลับมาของบทบาทปาตานีอีกครั้ง ที่ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นแหล่งอารยธรรมที่รุ่งเรืองในอดีต โดยเฉพาะ การเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาในภูมิภาค

อิสลามเป็นศาสนาที่ข้ามพ้นข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ เชื้อชาติ ภาษาและสีผิว เพราะอิสลามคือศาสนาแห่งมนุษยชาติทั้งมวล ดังนั้นทุกชาติพันธุ์ ต่างก็มีส่วนร่วมสร้างอารยธรรมอิสลามอย่าวเคียงบ่าเคียงไหล่ อิสลามคือศาสนาที่มีความหลากสีตามสีดินที่เป็นต้นกำเนิดมนุษย์ ความแตกต่างทางกายภาพเหล่านี้ได้สรรค์สร้างความสวยงามของโลกมาแล้ว

อิสลามคือดวงดาว หากดวงหนึ่งดับแสง ดวงอื่นๆก็พร้อมทอแสงอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพราะอิสลามคือศาสนาที่อยู่บนฐานของความอิสระเสรี ไม่มีการบังคับขู่เข็ญ การให้ความอิสระถือเป็นการต่อยอดและให้โอกาส ในขณะที่การบังคับขู่เข็ญคือการตัดตอนและปิดประตูมิให้มนุษย์ขยับตัวสู่การพัฒนา

อิสลามเป็นศาสนาแห่งดุลยภาพ ความปรานี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันที่มีการเข่นฆ่า สุดโต่ง และรุนแรง เนื่องจากการขาดหายไปของอิสลามที่แท้จรืงบนเวทีโลก

ฐานสำคัญของอารยธรรมโลกในปัจจุบัน ถูกค้ำโดยการบังคับขู่เข็ญ การลิดรอนสิทธิเสรีภาพ การยึดครองประเทศและการรุกราน 

ขอขอบคุณทีมงานคุณภาพของการสัมมนาในครั้งนี้ทุกท่าน ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่เห็นความสำคัญของการสานเสวนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพราะความรู้เท่านั้นคือพลังที่แท้จริง หาใช่อาวุธและกองกำลังทางการทหาร

ผมขอเรียนย้ำว่า อิสลามคือศาสนาแห่งการสานเสวนา ถักทอสายใยแห่งความสัมพันธ์ ไม่ใช่ศาสนาแห่งการเผชิญหน้าด้วยวิธีรุนแรง เพราะอิสลามสนับสนุนการใช้ชีวิตอย่างสันติ แม้กระทั่งยามศึกสงคราม เมื่อใดที่ศัตรูพร้อมเจรจาสงบศึก อิสลามสั่งให้สนองตอบการเรียกร้องนี้ทันที ถึงแม้กำลังประจันบานในสมรภูมิสงคราม และถึงแม้อาจเป็นกลลวงของศัตรูก็ตาม

--------------

 
ส่วนคำถามกรณีไอเอส(ไอสิส) ท่านตอบสรุปดังนี้
1.การกำเนิดของกลุ่มนี้เป็นการสะท้อนถึงความไม่เข้าใจต่ออิสลามที่สมบูรณ์ เป็นภูมิปัญญาที่บิดเบี้ยว และคดเคี้ยวจากคำสอนของอิสลามอันเที่ยงตรง เป็นผลของการขาดการซึมซับแนวทางของนบีที่ถูกต้อง
2. เราต้องเข้าใจเบื้องต้นว่า สาเหตุของความสุดโต่งนี้ เพราะเป็นปฏิกิริยาโต้กลับของความสุดโต่งเช่นกัน โลกปัจจุบันเต็มไปด้วยอธรรม การยึดครอง การคลั่งลัทธิ และขาดเสรีภาพ นี่คือสาเหตุหลักของภูเขาไฟระเบิดลูกนี้ และมันจะมีเรื่อยๆตราบใดที่เราไม่แก้ที่ต้นเหตุ
 
3.การก่ออาชญากรรมไม่ใช่เป็นแนวทางอิสลาม และอิสลามไม่เคยถูกสร้างบนฐานของการก่ออาชญากรรม
 
4. ไอเอสไม่ใช่เป็นผลงานของชาวมุสลิมเพียงฝ่ายเดียว แต่ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มที่ไม่หวังดีต่ออิสลาม ที่พยายามสร้างภาพแห่งความหวาดกลัวต่ออิสลาม พวกเขาพยายามให้ผู้คนวิ่งหนีออกจากอิสลาม หลังจากอิสลามเคยวิ่งไปหาผู้คนมาแล้ว มุสลิมส่วนหนึ่งอาจตกเป็นเครื่องมือของแผนร้ายนี้
 
ส่วนประเด็นการประยุกต์ใช้คำสอนสู่ภาคปฏิบัตินั้น ท่านฝากความหวังไปยังบทบาทสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษาทุกระดับชั้น สถาบันศาสนา มัสยิดและองค์กรอิสลามต่างๆ สื่อทุกแขนง ให้ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนลูกหลานด้วยคำสอนที่ถูกต้อง เพราะความโง่เขลาคือศัตรูตัวฉกาจของอิสลาม ขอให่ทุกฝ่ายศึกษาเรียนรู้อิสลามจากแหล่งที่ถูกต้อง ผ่านการอธิบายที่ถูกต้องและการประยุกต์ใช้ที่ถูกต้อง