Skip to main content

อัคคชา พรหมสูตร

สมมุติฐานหนึ่ง ที่ฝ่ายกลุ่มขบวนการสามารถปฏิบัติการใช้ความรุนแรงทั้งรุกและตอบโต้ฝ่ายรัฐเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำรวจ ทหารได้โดยไม่มีชาวบ้านในพื้นที่ยอมไปเป็นพยานรู้เห็นแหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง น่าจะมาจากหลายเหตุผล แต่ถ้าหนึ่งในนั้นคือ ประชาชนปฏิเสธการใช้อำนาจของผู้ปกครองหรืออำนาจของรัฐและยอมรับหรือไม่ปฏิเสธอำนาจของกลุ่มขบวนการมากกว่ารัฐ ฝ่ายรัฐเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำรวจ ทหาร กำลังทำสงครามกับใครไม่ทราบ
 
ในขณะที่ฝ่ายรัฐเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำรวจ ทหารมีงบประมาณ ปีละหลายหมื่นล้านบาท ระยะของสงครามถ้าเริ่มนับจากวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๔๗  สู้กันมาถึงวันนี้ประมาณ ๗ ปีผลลัพธ์ฝ่ายรัฐทำได้แค่ยันๆไม่ถึงเสมอแต่น่าจะใช้เงินงบประมาณเกินแสนล้านไปแล้ว แล้วกลุ่มขบวนการสู้กันมา๗ ปี ผลลัพธ์รัฐไทยยังคุ้มครองตัวเองแทบไม่ได้ มาถึงวันนี้กลุ่มขบวนการใช้เงินงบประมาณไปเท่าไหร่แล้ว และที่สำคัญกว่านั้นกลุ่มขบวนการเอาเงินมาจากไหนมาสู้ไม่ทราบ
 
ถ้าสมมุติว่า...ฝ่ายรัฐเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำรวจ ทหาร กำลังทำสงครามกับ ประชาชนในพื้นที่ และกลุ่มขบวนการเอาเงินมาจาก ประชาชนในพื้นที่ ท่านผู้อ่านในฐานะประชาชนชาวไทย ท่านจะสนับสนุนฝ่ายใหนเพราะแต่ละฝ่ายก็มีเหตุผลฝ่ายรัฐเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำรวจ ทหารก็มีเหตุผลเพื่อความมั่นคงของประเทศ(ใคร)กลุ่มขบวนการก็มีเหตุผลทางการเมืองที่จะต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิในการปกครองตนเอง ซึ่งมีหลายระดับตั้งแต่รูปแบบการปกครองท้องถิ่น พิเศษแบบ กรุงเทพมหานคร  เมืองพัทยา นครแม่สอด ไปจนถึงซินเกียง มาเก็า ฮ่องกง และเป้าหมายสูงสุดคือเอกราชแบบว่ารัฐอิสระที่เรียกว่ารัฐปัตตานีหรือประเทศปัตตานี
 
สุดท้ายความจริงวันนี้ ถ้ามีการพิสูจน์ได้ว่า เป้าหมายของกลุ่มขบวนการก็ลดความต้องการลงเหลือแค่ รูปแบบการปกครองท้องถิ่นพิเศษภายใต้รัฐธรรมนูญไทย แบบ กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา นครแม่สอด เป็นนครปัตตานี และประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ก็มีการแสดงออกถึงความต้องการที่สอดคล้องตรงกันกับกลุ่มขบวนการ ฝ่ายรัฐเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำรวจ ทหาร ยอมลดบทบาทของตนลงไป แล้วนำนโยบาย การเมืองนำการทหาร มาใช้จริงๆ เสียที ด้วยวิธีการขยายเสรีภาพประชาชนในพื้นที่ ให้สิทธิกับประชาชนในพื้นที่มากขึ้น ในการเลือกคนท้องถิ่นขึ้นมาปกครองตนเองด้วยการเลือกผู้บริหารท้องถิ่นโดยตรง โดยไม่ต้องมีผู้ว่าที่มาจากกรมการปกครองมาปกครองอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หรือถ้าจะคงมีไว้ก็ไห้ทำหน้าที่เป็นเพียงพี่เลี้ยงที่คอยสนับสนุนให้คำปรึกษาเท่านั้น แล้วให้นครปัตตานี ขึ้นตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย เหมือนกับกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา นครแม่สอด แล้วสถานการณ์จะดีขึ้นอย่างน่าสงสัย