Skip to main content

 

อายุ ฮาแว ผู้ร่วมโครงการพาคนกลับบ้านถูกยิงเสียชีวิต

 

มารียัม อัฮหมัด
ยะลา
    171114-TH-funeral-1000.jpg
    ชาวบ้าน ม.5 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ขณะทำพิธีทางศาสนาให้กับนายอายุ ฮาแว ซึ่งถูกลอบสังหารเสียชีวิตเมื่อคืนวาน วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560
     มารียัม อัฮหมัด/เบนาร์นิวส์
     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ในวันอังคาร (14 พฤศจิกายน 2560) นี้ นางสีตีอาอีเสาะ อาแว ภรรยาของนายอายุ อาแว ผู้ร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า สาเหตุที่คนร้ายที่ลอบสังหารสามีของตนในวันจันทร์ที่ผ่านมา อาจมาจากการที่นายอายุทำงานร่วมกับทหาร การลอบสังหารมีการวางแผนเป็นอย่างดี และได้เตรียมการหลายสัปดาห์

    “ก่อนหน้านี้ ประมาณ 3 สัปดาห์ สามีไปข้างนอกมาแล้วกลับมาเล่าว่า มีคนตาม ไม่รู้จะตามเอาอะไร ก็คิดว่าเขาวางแผนมาแล้ว มีการติดตามรถสามี เพื่อที่จะหาโอกาสทำเขา เรื่องที่เกิดขึ้นก็ต้องรับให้ได้ เพราะเป็นความประสงค์ของพระเจ้า ตอนนี้ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตุเรื่องนี้ว่า เพราะเขาทำงานให้ทหาร” นางสีตีอาอีเสาะ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

    เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันจันทร์ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ชอบ สุนทร รองสารวัตรสืบสวน สำนักงานตำรวจภูธร อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับแจ้งเหตุว่า นายอายุ อาแว หนึ่งในผู้ร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน โฆษกชาวบ้าน และลูกจ้างโครงการเร่งด่วนของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถูกยิงเสียชีวิต ที่หน้าบ้านเลขที่ 7 ม.5 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน หลังกลับจากการละหมาดที่มัสยิดยาแมะตีบุใน ต.ย๊ะตะ

    “คนร้ายเข้ามาซุ่มอยู่ ขณะที่ผู้ตายกำลังเก็บรถจักรยานยนต์เข้าบ้านพัก และหนึ่งในคนร้ายได้วิ่งเข้ามาใช้ปืนยิงใส่ 3 นัด ถูกบริเวณลำตัวทั้งหมด จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลอำเภอรามัน” ร.ต.อ.ชอบเปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงข้อมูลการสอบสวน

    “การก่อเหตุครั้งนี้เป็นการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ ผู้ตายเป็นคนที่ชาวบ้านรักใคร่ และเพิ่งไปอบรมโครงการโฆษกชาวบ้าน เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อกลับมาก็มาถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต” ร.ต.อ.ชอบกล่าวเพิ่มเติม

    ด้านเจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่ง (สงวนชื่อ-นามสกุล) และนายดอเลาะ เจะแต ชาวบ้านในพื้นที่คิดเห็นในทางเดียวกันว่า ผู้ที่ก่อเหตุอาจไม่พอใจนายอายุจากการช่วยเหลือประชาชน และเจ้าหน้าที่

    “เขาช่วยเหลือทุกคน ใครเดือดร้อนเขาก็จะช่วยเจ้าหน้าที่เขาก็ช่วย ชาวบ้านเขาก็ช่วยเหลือ แถมยังเป็นผู้รู้ด้านศาสนาด้วย เพราะการชอบช่วยเหลือคนอื่น ดีกับทุกคนเขาจึงมีคนรู้จักเยอะ และมีคนรัก ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่พอใจจึงก่อเหตุนี้ขึ้น” เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ

    อย่างไรก็ตาม ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาคที่ 4 ส่วนหน้า ระบุเพียงว่า คนร้ายมุ่งทำร้ายผู้บริสุทธิ์และคนดีซึ่งทำงานเพื่อสังคม แต่ยังไม่รีบสรุปสาเหตุการลอบสังหารครั้งนี้

    “คนร้ายต้องการทำร้ายคนดีคนที่ทำงานเพื่อสังคม ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เป็นผู้เสียสละ ตอนนี้สามฝ่ายยังไม่สรุปประเด็นสาเหตุที่เกิดขึ้น แม้เขาจะเป็นผู้ที่ช่วยเหลืองานเจ้าหน้าที่ แต่ก็ต้องตรวจสอบข้อมูลอื่นด้วยจึงจะสามารถระบุสาเหตุได้” พ.อ.ปราโมทย์กล่าว

    นอกจากการลอบสังหารนายอายุแล้ว เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดลาดตระเวณ กองร้อย ทพ.3310 ขณะตรวจสอบพื้นที่ด้วยรถจักรยานยนต์ ในเขต บ.ดาแลแป ม.1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 รายประกอบด้วย 1.ส.ท.อนุชาติ กามูล  2.อส.ทพ.สพรรณ ชัยบุญเกษม 3.อส.ทพ.ยงยุทธ ชีวิกุลสัมพันธ์ และ 4.อส.ทพ.สิทธิพร เสถียรอำนวย และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย

    หน่วยข่าวกรองเตือนคนร้ายเตรียมก่อเหตุ

    เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอีกราย (สงวนชื่อและนามสกุล) กล่าวต่อเบนาร์นิวส์ว่า พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ซึ่งอาจก่อเหตุอีกครั้ง หลังจากเว้นช่วงไประยะหนึ่ง

    "พบการเคลื่อนไหวล่าสุด ของกลุ่มก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เตรียมก่อเหตุในพื้นที่ระลอกใหม่หลังได้รับคำสั่ง กลุ่มนี้เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ แล้วจะกลับไปหลบในประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อมีคำสั่งก็จะข้ามเข้ามาในพื้นที่เพื่อเตรียมก่อเหตุ” เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ

    เจ้าหน้าที่รายดังกล่าว ระบุว่า พบการเคลื่อนไหวของสมาชิกกลุ่มหลายระดับในพื้นที่อำเภยะหา จังหวัดยะลา ส่วนในจังวหัดนราธิวาส พบการเคลื่อนไหวใน อ.สุไหงโก-ลก อ.เจาะไอร้อง อ.แว้ง และ อ.สุไหงปาดี

    ในจังหวัดปัตตานี พบการเคลื่อนไหวใน อ.สายบุรี อ.กะพ้อ อ.ยะหริ่ง และ อ.ไม้แก่น ซึ่งอาจก่อเหตุทั้งโจมตีเจ้าหน้าที่ ฐานปฎิบัติการ และประชาชน ให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

     

    เผยแพรครั้งแรกที่ http://www.benarnews.org