Skip to main content

 

ปรากฎการณ์ตูน: สังคมมุสลิมจชต./ปตานีควรมีทักษะด้านต่างๆอย่างไรบ้าง

 

อุสตาซอับดุชชะกูร บินชาฟิอีย์

กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้

[email protected]http://www.oknation.net/blog/shukur

 

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ก้าวคนละก้าว ชายแดนใต้

ที่มาของภาพ : https://www.pptvhd36.com

 

จากโครงการ “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร จากใต้สุดที่ อ.เบตง จ.ยะลา สู่เหนือสุด อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำรายได้จัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลศูนย์ 11 แห่ง ของ ‘ตูน’ นักร้องนำวงบอดี้สแลม พร้อมด้วย ‘ก้อย รัชวิน’ และทีมงาน โดยปัจจุบันได้ผ่านชุมชนต่างๆชายแดนใต้ซึ่งส่วนใหญ่มีคนชื่นชมแต่หลังจากมีภาพสาวหรือสตรีมุสลิมในพื้นที่มากมายถ่ายภาพเซลฟีทำให้ นักเลงคีย์บอร์ดบางส่วนออกมาโจมตี แต่ก็มีนักวิชาการมุสลิมบางท่านหรือหลายท่านออกมาชี้แจงหนึ่งในนั้นคือ ท่าน  อับดุลกอเดร มัสแหละ ได้เขียนบทความผ่านเฟสท่านในหัวข้อ   จากกระทงมาถึงตูน...โดยมีรายละเอียดดังนี้

“ เมื่อคืน(3/11/60)เป็นคืนลอยกระทง สังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่ริมน้ำ พวกเรามุสลิมก็อยู่ริมน้ำเช่นกัน กระทงกับคนไทย กระทงกับมุสลิม มันก็อยู่ก็เห็นกันมานาน ตั้งแต่อดีตมาก็ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหน

มุสลิมไม่ลอยกระทง ก็รู้กันมาตั้งนาน เพราะมันไม่ใช่ประเพณี วัฒนธรรมของมุสลิม ก็ไม่เห็นจะมีปัญหากันตรงไหน

แต่ปัจจุบันกลับมีปัญหา ก็ไม่ทราบว่า มันเกิดการขัดข้องทางเทคนิดตรงไหน เมื่อไหร่ หรือมุสลิมหย่อนยาน หรือว่ามุสลิมเกิดเคร่งเกินไป

เคร่งไม่เป็นไร แต่อย่าเคร่งจนล้ำเส้น...ไม่ว่าเทศกาลอะไรมา มุสลิมเป็นได้วิจารณ์แหลก หลายคนก็วิจารณ์ล้ำเส้น แบบขาดความเกรงใจ

ผมก็ไม่เห็นว่าจะมีใครมาชวนมุสลิมไปลอยกระทง และมุสลิมบางคนที่แอบไปงานลอยกระทงก็ไม่มีใครมาชวนสักหน่อย

การที่มุสลิมบางคนไปวิพากษ์ วิจารณ์เกินความพอดี ผมไม่เห็นด้วย หลายครั้งวิจารณ์เกินเลยมากไป....ไปกระทบความเชื่อของเขา

ทำไมละใครจะทำตามความเชื่อของใคร มันเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมเราต้องเดือดร้อนด้วย ในเมื่อสิ่งเหล่านี้เราก็เคยเห็น และมันก็อยู่กับพหุวัฒนธรรมมาโดยตลอด

เราจะจัดงานอะไร ก็ไม่มีใครมาว่าอะไรเรา วันอีดเราจะมีอะไร เพื่อนๆต่างศาสนิกก็ไม่เคยมาก้าวก่ายเรา แล้วทำไมเมื่อเขามีเทศกาลของเขา เราต้องไปวิพากษ์จนเกินเลย...อุมมุเตาวะสะฎอ มันหายไปไหนหมด

คนในอดีตเคร่งกว่าคนยุคนี้ เขาก็ไม่เห็นจะต้องไปล้ำเส้นกัน เขาถึงอยู่ได้อย่างมีความสุข ท่ามกลางการเข้าใจซึ่งกัน และกัน

เช่นเดี่ยวกัน ที่ ตูน บอดี่แสลม ออกวิ่งรณรงค์ซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาล ผมก็งงมากที่บางคนออกมาต่อว่าเสียๆหายๆ

ภาพลักษณ์ที่พี่น้องมุสลิมสามจังหวัดร่วมกันบริจาค เป็นภาพลักษณ์ที่สวยงาม เพราะเป็นการบริจาคเพื่อมนุษยธรรม หลายฝ่ายชื่นชม สิ่งที่ออกมา มันตรงกันข้ามกับความโหดร้าย

แต่ก็แปลกเกิดมีคนรู้สึกไม่พอใจ ผมงงมาก...โดยเอาภาพที่มีคนถ่าย "เชลฟี่"กับตูน มาวิจารณ์ ทั้งๆที่ตูนเขาก็น้อบน้อมเกรงใจ เขาก็คงเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของมุสลิม

แต่ภาพ "เชลฟี่" เราควรตำหนิใคร หรือเราไม่ได้สอนคนของเราเอง แต่ไปตำหนิคนอื่น

มันเลยไม่ต่างกันกับลอยกระทง คนของเราหนีไปเที่ยวเอง แต่เรากลับไปโทษเทศกาลลอยกระทง

ถามว่า "ตูน" ใครๆก็รู้จัก เมื่อผู้คนจะชื่นชมยินดี มันก็เรื่องปกติ ส่วนสาวๆมุสลิมที่ออกจะเกินเลย ถามว่าจะโทษใคร

เริ่มแรกก็ผู้ปกครอง พ่อแม่เขานั้นแหละที่ต้องตักเตือน เป็นอันดับแรก ส่วนพวกเรานั้น ก็ตักเตือนด้วยกับวิทยปัญญา การตักเตือน มันก็มีรูปแบบไว้แล้ว

การใกล้ชิดระหว่างหญิงสาว-ชายหนุ่ม ที่มิใช่เป็นญาติใกล้ชิด มัน "ฮาราม" ต้องห้ามตามหลักการอิสลาม ถามว่ามุสลิมไม่รู้หรือไง...รู้หมดละครับ

ก่อนจะไปด่า "กระทง" ก่อนจะไปต่อว่า "ตูน" มาต่อว่าพวกเรากันเองไม่ดีกว่าหรือ...และการจะต่อว่าใครก็ควร มองถึงผลกระทบด้วยว่า มันเหมาะสมหรือไม่

ถ้าคิดว่าการบริจาคเงินผ่านตูนเพื่อไปซื้อเครื่องมือแพทย์ ไม่ดี สู่เอาเงินไปสร้างมัสยิดไม่ได้ คุณก็ทำไปเลย มีมัสยิดอีกมากมายที่ยังไม่แล้วเสร็จ

ใครที่บริจาคเงินสร้างมัสยิดดีครับ ไม่มีใครว่าไม่ดี แต่ถ้าเขาจะบริจาคเพื่อมนุษยธรรม แล้วไง...หรือเราคิดว่าคนที่บริจาคเงินผ่านตูน เขาไม่เคยบริจาคเงินสร้างมัสยิดหรือไง

แต่ถ้าจะมีมุสลิมคนใดจะไปช่วยซื้อเครื่องมือทางการแพยท์ให้โรงพยาบาล โดยผ่านตูน ซึ่งเขากำลังรณรงณ์ นั้นก็เรื่องของเขา

ส่วนเรื่องที่คนของเราเกินเลย นั้นเราต้องต้องมาว่ากันเอง การตักเตือน มิใช่การด่า หรือประจาน

ผมว่าไปห้ามคนที่เอาเงินไปซื้อยาบ้า เล่นการพนันดีกว่ามั้ง...ถ้าคุณทำแบบนี้ออกเฟสบุ๊ค รับรองได้มีคนเชียร์คุณเพียบ ยกเว้นคนขายยาบ้า และเจ้ามือบ่อนเท่านั้นที่ไม่พอใจ....

อย่าทำอะไรให้คนเขาคิดว่า มุสลิมนี่หาความพอดีไม่ได้เลย ใครทำอะไร เป็นขวางหูขวางตาไปทุกเรื่อง

มันเสียภาพลักษณ์มุสลิมผู้ใฝ่หาสันติหมด”...

ปรากฏการณ์ตูนได้สะท้อนให้สังคมมุสลิมจชต./ปตานีทุกภาคส่วนโดยเฉพาะโลกโซเซียลต้องมีทักษะด้านต่างๆอีกมาก.  เช่น มุมมองการบริจาคสาธารณประโยชน์ผ่านต่างศาสนิก ทักษะการสนับสนุนความดีละเว้นความชั่วตามมุมมองศาสนา ทักษะการทำกิจกรรมสาธารณกับคนต่างวัฒนธรรมดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ผู้เขียน ผู้เผยเเผ่ศาสนธรรมเเละทุกคนจะร่วมด้วยช่วยกันอย่างไรในภารกิจหนุนเสริมความดีละเว้นความชั่วอย่างมีอารยะตามกรอบอิสลามเพราะอิสลามคือแนวทางการดำเนินชีวิต

ท้ายนี้ฝากชาวทุกท่านเเละมุสลิมสองเรื่องกรณีตูนวิ่งการกุศลผ่านแต่ละพื้นที่
1.ร่วมกันบริจาคเพราะมันคือความดีที่ไม่สิ้นสุด
2.สำหรับมุสลิมผู้ที่จะเซลฟีขอให้อยู่ในกรอบของมารยาทเเละหลักการอิสลาม