Skip to main content

 

เสียงสนทนาทางโทรศัพท์ สัมผัสได้ถึงความอัดอั้นตันใจของลุงชราอายุกว่า 60 ที่ต่อสู้ส่งเสียงไม่เอาอ่างเก็บน้ำมา 12 ปีเต็ม

 

ข้าพเจ้า : ลุงคะเป็นอย่างไรบ้าง ไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม

ลุง : เจอหัวหน้าเลย ดีใจจะได้ขอความช่วยเหลือ มีคนพาเข้าไปพบข้างในเลย

ข้าพเจ้า : แล้วหัวหน้าว่าไงคะ (ข้าพเจ้าตื่นเต้น เพราะหัวหน้าคนนี้เคยทำงานอนุรักษ์แม่น้ำปัตตานีมาด้วยกัน)

ลุง. : เขาว่า ไม่ยอมไม่เป็นไร เดี๋ยวจะพาทหารไปจัดการ (เสียงลุงสั่นเครือ หมดความหวัง) ถ้าเขาเอาทหารเข้าพื้นที่ คนก้อกลัว ใครจะกล้าขัดทหาร

ข้าพเจ้า เงียบ ก็พูดไม่ออก ไม่ใช่กลัวทหาร. แต่สงสารลุง และนึกในใจว่า. เดียวนี้ข้าราชการพลเรือนใช้อำนาจคำว่าทหาร ข่มขู่ชาวบ้านแล้วหรือ.

เพียงเสี้ยวนาที ลุง. ส่งเสียงมาตามสายต่อว่า

: ผมจะทำยังไงครับ ผมน่ะกล้า แต่ชาวบ้านบอกว่า ถ้าทหารลงมา เป็นเรื่องใหญ่นะ ใครจะกล้าค้าน เขาใหญ่มากในบ้านเรา

ข้าพเจ้า : ไม่ไรลุง มีทางออกนะ ใจเย็น ๆ ก่อน.

(แล้วค่อย ๆ ปลอบแกเบาๆ. ไม่ให้แกบอบช้ำไปกว่านี้ สงสารแกจับใจ นี่คือภัยแทรกซ้อนที่ จชตไม่สามารถสงบลงได้ )

ลำพะยา ดินแดนเชิงเขาสันกาลาคีรี ที่มีดินดำกากยายักษ์ อันเป็นดินศักดิ์สิทธิ์ เป็นส่วนผสมสำคัญของการทำประกอบเป็นพระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ เกือบทุกรุ่น

เป็นพื้นที่เก่าแก่ อยู่ร่วมกันมาสามสี่ วัฒนธรรม มุสลิมทั้งนายูและไม่ใช่ ซีแย จินอ ที่อยู่กันแบบที่มนุษย์ผู้เกิดมาบนโลก มีฐานทรัพยากรที่สมบูรณ์ จนใครๆ อิจฉา ผู้คนมีอาชีพการเกษตร. ปลูกผลไม้สมรม ยางพารา ทำนา หากินบนเขา ซึ่งเป็นที่ทำมาหากินที่สมบูรณ์ของผู้คนจาก 3 ตำบลใกล้เคียงกัน

ปี 48. มีโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำละพะยา อ้างชื่อต่อท้ายว่าพระราชดำริ จนชาวบ้าน ต้องถวายฎีกาถึงสำนักพระราชวัง และสำนักพระราชวังไดส่งคนมาดูและมิได้เป็นพระราชดำริแต่อย่างใด

ปี 51 ชาวบ้านจึงร้องเรียนกรรมการสิทธิ์ ซึ่งได้รับการตรวจสอบและให้ความเห็นในสองสามปีต่อมาว่าขอให้ยุติการสร้างและให้ทำการปรับปรุงฝายฝรั่งเศสเก่าและทำนบในหลวง ตามข้อเสนอของชาวบ้าน

ทำให้ความเคลื่อนไหวของหน่วยงานหยุดไปพักใหญ่

ต้นปี 53 มีการเรียกชาวบ้านไปคุยจะสร้างอีก และรองผู้ว่าราชการสมัยท่านณัฐพงษ์ ศิริชนะ ลงมาพบปะชาวบ้าน ที่ อบต. 4 กพ มีมติให้เห็นตามที่ขาวบ้านเสนอคือ. ยุติแผนการสร้างอ่าง ปรับปรุงฝายและทำนบที่ทิ้งร้างมานาน และให้จัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อร่วมบริหารจัดการ แต่ก้อไม่มีการดำเนินการใด

ผ่านไป อีก 7 ปี ราว กพ_มีค 60. ชาวบ้านนอนตาไม่หลับอีก โครงการนี้กลับมาอีก

โดยเรียกชาวบ้านกลุ่มคัดค้านไป ที่ประชุมบอกว่าต้องทำการเคลียร์ 2 ส่วนคือ ชาวบ้าน 15 ราย ที่คัดค้านไม่ยอมให้รังวัดที่ดิน. (ชาวบ้านไม่ให้เข้าทำการรังวัดเพราะเชื่อว่า เพื่อเคลียร์ก่อนเข้ามาของโครงการ) และคนที่เช่าที่ราชพัสดุจำนวน 288 ไร่ ซึ่งชาวบ้านคิดว่าหมายถึงมูลนิธิสุขแก้วแก้วแดงของ ดร. รุ่งแก้วแดง ที่เช้าทีจำนวนดังกล่าว มายาวนานแล้ว

เมษายน 2560 ลุงและพรรคพวก ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์พร้อมปฎิเสธไม่ให้เข้ามาทำการรังยืนยันการไม่ยอมให้กรมชลประทานมาสร้างอ่างเก็บน้ำ โดยยื่นถึง ผู้อำนวยการชบประทานยะลา

ซึ่งได้บันทึกการสนทนาไว้แล้วข้างต้น

ข้าพเจ้า ยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างชาวบ้านที่ลุกออกมาแสดงเจตน์จำนงทางการเมือง เมื่อเกิดมาเพื่อค้านความไม่เป็นธรรม. คงต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แม้ว่า ในบทสนทนาหลายครั้งหลายคราของเจ้าของโครงการมักจะบอกว่า พวกนี้้มันคนนอก

สิ่งที่สะท้อนใจอย่างมากกับเหตุการณ์ครั้งนี้ คือภายใต้อำนาจเต็มของทหาร. ที่ถูกมอบหมายมาดูแลความไม่สงบใน จชต กลับมีการกล่าวจากปากข้าราชการพลเรือนชั้นผู้ใหญ่ระดับ ผอ. ว่า ชาวบ้านไม่ยอม จะให้ทหารเข้าไปจัดการ....นี่มันกระไรกัน. ท่านแม่ทัพทราบยังคะ

จึงขอสื่อสารสาธารณะ เรื่องข้างต้น

เพื่อให้เห็นบรรยากาศที่เข้ามาแทรกซ้อนความสงบสุขของแผ่นดิน

 

ด้วยจิตคารวะ

จาก

เลขาธิการสมาคมลุ่มน้ำสายบุรี

ผู้ประสานงานเครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติชายแดนใต้