Skip to main content

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง

 

สะเทือนใจ #เทใจให้เทพา

#SocialMovement

16.00 วันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 สลายการเดิน..เทใจให้เทพาแล้ว ตำรวจชุดใหญ่จัดเต็ม สลายการชุมนุมชาวบ้านที่เดินอย่างสงบไปยื่นหนังสือกับนายกรัฐมนตรี ชาวบ้านส่วนใหญ่โดนจับไปโรงพักเมืองสงขลา บางส่วนบาดเจ็บ แกนนำโดยจับเกือบทั้งหมด ทั้งหมดนี้ทีมงานายกสั่งเคลียร์ก่อนที่นายกประยุทธจะมาถึงอำเภอเมืองสงขลาในช่วงหัวค่ำ

เวลา 17.45น. แกนนำคัดค้านฯ ถูกรวบตัวไป 16 คน ถูกจับไว้ที่สภอ. เมืองสงขลาชั้น 4 ตำรวจกำลังให้ลงชื่อ ยังไม่แจ้งข้อหา มีทนายอยู่ที่ สน.ช่วยเหลืออยู่

ส่วนชาวบ้านอีกประมาณ 50 กว่าคน อยู่ในมัสยิดเก้าเส้ง ชาวบ้านในมัสยิดส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และเด็กตำรวจล้อมไว้ข้างนอกอยู่ขณะนี้

=====

#จดหมายถึงนายกรัฐมนตรี

“เดินไปหานายก หยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน เทใจให้เทพา หยุดการพัฒนาที่ทำลายชุมชน”

เครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน

​​​​​​27 พฤศจิกายน 2560

เรื่อง #ขอให้นายกรัฐมนตรียกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเพราะมีความไม่ชอบธรรมนานับประการ

สืบเนื่องจากการที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้จะมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดปัตตานีในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 และประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจรที่ มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย อำเภอเมืองสงขลา ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 นี้ ชาวเทพาและเครือข่าย มีมติเดินเท้าจากพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เพื่อสื่อสารต่อสาธารณะถึงความไม่เป็นธรรมที่ชาวบ้านได้รับจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และยื่นหนังสือต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีถึงความไม่เป็นธรรม ความฉ้อฉล และผลกระทบ ที่โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพากระทำต่อชุมชนคนเทพาและรวมถึงคนสงขลาและคนปัตตานี

ความไม่เป็นธรรมที่ชาวบ้านเทพาโดนกระทำจากอำนาจรัฐและอำนาจทุนมาอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปี ของผลักดันโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่สำคัญได้แก่

- การมีส่วนร่วมที่เป็นเพียงพิธีกรรมทั้งเวทีรับฟังความคิดเห็น ค.1, ค.2 และ ค.3 โดยที่ไม่มีการพูดคุยหรือรับฟังถกแถลงสองทางกับกลุ่มคัดค้านทั้งที่เป็นชาวบ้านและนักวิชาการเลยแม้แต่ครั้งเดียว

- การศึกษา EHIA มีความบกพร่อง ไม่ครอบคลุม โดยชาวบ้านเชื่อว่ามีการลักไก่มากมายเพราะไม่เห็นลงมาเก็บข้อมูลเลยแต่กลับมีข้อมูลรายงาน อีกทั้งมีข้อมูลที่เป็นเท็จไม่ตรงข้อเท็จจริงในพื้นที่จำนวนมาก

- กระบวนการอนุมัติโครงการมีการแยกส่วนการศึกษา EHIA โดยทราบว่าจะมีการชงให้ ครม.อนุมัติสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาไปก่อน โดยไม่รอ EHIA ท่าเรือขนถ่านหินซึ่งไม่ผ่านและยังต้องปรับแก้อีกมาก

- พื้นที่ทำโครงการเกือบ 3,000 นั้น ต้องมีการบังคับโยกย้ายคนบ้านบางหลิงและคลองประดู่ออกจากพื้นที่แผ่นดินเกิดกว่า 180 หลังคาเรือน ร่วม 1,000 คน "แล้วจะให้ชาวบ้านไปอยู่ที่ไหน" นับเป็นการบังคับโยกย้ายครั้งใหญ่ในยุคนี้ ซึ่งขัดกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน

- คนที่จำเป็นต้องอยู่อาศัยรอบโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างจำใจในรัศมี 1 กิโลเมตร มีมากถึง 4,000 คน และรัศมี 5 กิโลเมตรมีร่วม 20,000 คน แสดงถึงการเลือกที่ตั้งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

กระแสของทั้งโลกกำลังทยอยยกเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะทำให้โลกร้อนและก่อมลพิษ อีกทั้งยังทำลายวิถีชุมชนเทพาที่สุขสงบ ประเทศไทยมีทางเลือกที่จะไม่สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหลายทางเลือก จึงขอเพียงให้รัฐบาลมีนโยบายที่สอดคล้องกับประชาคมโลกตามที่รัฐบาลได้ไปลงนามไว

ทางเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน จึงขอให้ ฯพณฯนายกรัฐมนตรี รับฟังเสียงประชาชน “โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาไม่มีความชอบธรรมใดๆที่จะสร้าง” จึงขอให้ทางรัฐบาลพิจารณายกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา” และชี้นำการสร้างสังคมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน

 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

​​​​​​ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

 

อาจารย์ดิเรก เหมนคร

ผู้ประสานงานเครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน

=====

#จดหมายถึงนายกรัฐมนตรี

เครือข่าย

 

​​​​​ 27 พฤศจิกายน 2560

เรื่อง #ขอให้นายกรัฐมนตรียกเลิกโครงการท่าเรือน้ำลึกสวนกง

สืบเนื่องจากการที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีได้มาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดสงขลา ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 นี้ ชาวบ้านจะนะและเครือข่ายได้ร่วมเดินเท้ากับพี่น้องเทพาจากพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ผ่านพื้นที่จะนะและบ้านสวนกง ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา จุดก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 เพื่อมาขอความเป็นธรรมจาก ฯพณฯนายกรัฐมนตรี

โครงการท่าเรือน้ำลึกงขลา 2 หรือท่าเรือน้ำลึกสวนกง เป็นโครงการที่มีผลกระทบกับวิถีชีวิตของชาวบ้านจะนะและอำเภอใกล้เคียงอย่างรุนแรง กล่าวคือ

1. วิถีชีวิตของพี่น้องจะนะริมทะเลตั้งแต่ตำบลนาทับ ตลิ่งชัน และสะกอม นับหมื่นคน รวมถึงอำเภอเมืองและอำเภอเทพา เป็นชุมชนประมงที่อาศัยฐานทรัพยากรในทะเลเลี้ยงชีพ ในปัจจุบันทรัพยากรทางทะเลกำลังพื้นตัวจากนโยบายการประมงของรัฐบาล ชาวบ้านกำลังมีความหวังกับอนาคต แต่กลับมีโครงการท่าเรือน้ำลึกสวนกงมาทำลายความหวังและทำลายชุมชน

2. ทะเลสวนกงมีชายหาดที่มีสันทรายชายหาดอายุถึง 6,000 ปี อีกทั้งมีชายหาดเต่าไข่ที่ทอดยาว สวยงาม ไม่มีการกัดเซาะ ในทะเลมีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ ทะเลสวนกงเป็นทะเลน้ำตื้น หากก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก ย่อมต้องมีการขุดร่องน้ำ การสร้างท่าเรือน้ำลึกที่นี่จึงเท่ากับเป็นการทำลายทั้งธรรมชาติและกระทบต่อชุมชนประมงริมทะเลหลายหมื่นคน

3. ที่ผ่านมา กรมเจ้าท่าได้มีความพยายามจะจัดเวทีการรับฟังความคิดเห็น แต่ชาวบ้านจำเป็นต้องคัดค้านเวทีดังกล่าว เพราะเป็นเวทีการมีส่วนร่วมที่เป็นเพียงพิธีกรรมเฉกเช่นเดียวกับโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและท่าเรือน้ำลึกปากบารา ไม่ใช่การมีส่วนร่วมจริงที่จะมาแสวงหาทางออกร่วมกัน

ทางเครือข่ายคนจะนะรักษ์ถิ่นและสมาคมรักษ์ทะเลจะนะ ไม่ได้ค้านการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก เราเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องมีท่าเรือน้ำลึกสำหรับการขนส่งสินค้า แต่เราคัดค้านโครงการท่าเรือน้ำลึกสวนกง เพราะมีที่ตั้งไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

จึงขอให้ ฯพณฯนายกรัฐมนตรี รับฟังเสียงประชาชน ขอให้ทางรัฐบาลพิจารณายกเลิกโครงการท่าเรือน้ำลึกสวนกง และสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมใหม่ เพื่อให้คนสงขลาทุกภาคส่วนได้ร่วมกันคิดและวางยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาท่าเรือน้ำลึกร่วมกัน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

​​​​​​ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

 

นายรุ่งเรือง ระหมันยะ

นายกสมาคมรักษ์ทะเลจะนะ และผู้ประสานงานเครือข่ายคนจะนะรักษ์ถิ่น

รูปภาพจากเครือข่าย

 

#PATANISOCIETY