Skip to main content

 

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของแบมะค่ะ

ก่อนหน้านี้ก็ได้เจอกันในสภาพที่พอจะเห็นได้ว่าแบมะยังแข็งแรง แต่เมื่อคืนเพิ่งจะคุยถึงและได้รับรู้อาการล่าสุด ถึงอย่างนั้นก็ยังคาดหวังว่าจะได้ไปเจอในอีกหลายวันข้างหน้า อย่างไรก็ตามก็ได้รับข่าวเช้าวันนี้ด้วยความเศร้าใจ นั่นละ ทุกอย่างก็เป็นไปตามสิ่งที่จะต้องเป็น ช้าหรือเร็วเราไม่อาจกำหนดได้

หวนคิดว่ารู้จักแบมะตั้งแต่ครั้งที่มีเดียยังอยู่ในยะลาและหลายปีที่ผ่านมาก็ได้รู้จักกันมากขึ้น ได้เคยสัมภาษณ์หลายหน เป็นคนให้สัมภาษณ์ที่ทิ้งข้อคิดเด็ดไว้ให้สังคมเสมอ นอกจากเป็นแหล่งข่าว เรายังมีโอกาสได้ปรึกษาหารือและเกื้อหนุนกันเรื่อยมาทั้งโดยส่วนตัวและในแง่การงาน ได้เห็นแบมะในหลายแง่มุม ได้รับรู้ความคิด ตระหนักถึงความพยายาม มองเห็นวิถีการดำรงตน การตัดสินใจที่คำนึงถึงผู้คนและความเคารพที่แบมะเองก็มีให้กับทุกคนแม้ว่าจะเด็กกว่ามากก็ตาม สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเคารพในตัวแบมะมากเช่นกันในสิ่งที่แบมะเป็น

และเราก็รู้ว่าความฝันอันหนึ่งของแบมะคือมีเดีย สลาตันที่แบมะพยายามจะให้เป็นช่องทางการสื่อสารให้กับคนในสังคมกลุ่มใหญ่ที่ยังมีอุปสรรคหลายอย่างในการเชื่อมต่อ เราว่าแบมะทำหน้าที่สื่อได้อย่างยากจะหาใครเหมือน เขาเติมเต็มหลายอย่างที่ขาดไป พิสูจน์ได้จากการมีแฟนรายการที่เหนียวแน่น แบมะเป็นนักจัดรายการวิทยุที่ลื่นไหลมีลูกเล่นแพรวพราว คล่องแคล่วมีไหวพริบรับมือสถานการณ์ฉับพลันได้อย่างดี อย่างไรก็ดีสิ่งสำคัญที่สุดของแบมะในฐานะสื่อไม่ได้อยู่ความเป็นนักพูดที่ลื่นไหล แต่อยู่ที่ความพยายามในอันที่จะทำให้สิ่งที่นำเสนอนั้นมีความหมายและมีเนื้อหาที่ตอบโจทย์จริงจัง แบมะจึงเป็นคนที่แสวงหาความรู้และคนที่เชื่อว่ารู้อยู่เสมอ แต่ในทางกลับกันโจทย์สำคัญของแบมะคือมีเดียเองก็จะต้องอยู่ให้ได้ในภาวะความขัดแย้งที่สื่อไม่เป็นที่พึงปรารถนาของใครหลายส่วน และในภาวะ “หน้าสิ่วหน้าขวาน” สำหรับสื่ออิสระนี้ แบมะก็เจอมรสุมไม่น้อย แต่ไม่ว่าจะเจอคลื่นลมเพียงใด ที่ผ่านมาแบมะก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะนำพามีเดียให้ผ่านไปให้ได้ เราชื่นชมในความพยายามอันนั้นด้วยและได้แต่หวังว่าวันหนึ่งจะได้เห็นแบมะกลับไปออกอากาศอีก

การจากมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแต่มันก็เป็นความเศร้าอยู่ดี ขอให้กำลังใจครอบครัวและมิตรสหายของแบมะมา ณ ที่นี้

ขอกล่าวคำอำลาค่ะ