Skip to main content

ใครคือ ดร.ซากิร ไนก์ ตามทัศนะอูลามาอ์ อะห์ลุลซุนนะห์ วัลยามาอะห์ ? (ตอนที่ 3) :

คำฟัตวา Deoband (ดิวบัน) ต่อแนวทางการเผยแพร่ศาสนา ของ ดร.ซากิรไนก์

 

เขียนโดย Iskandar Bin Mustafa

 

ได้มีการฟัตวาของสถาบันอูลามาอ์ อะห์ลุลซุนนะห์ Darul Ifta Darul Uloom Deoband (สำนักฟัตวา ดารุล อิฟตา ดารุล อูลูม ดิวบัน) ต่อแนวทาง แนวคิดความรู้ ในการเผยแพร่คำสอนศาสนาของ ดร.ซากิร ไนก์ ปรากฎว่าการฟัตวาของอูลามาอ์ดิวบันไม่สนับสนุนแนวทางเกี่ยวกับอากีดะห์และด้านฟิกฮ์ของเขา สำนักฟัตวาดารุล อิฟตา ดารุลอูลุม ดิวบัน ประเทศอินเดีย ซึ่งถือว่าเป็นสถาบันอูลามาอ์ ที่เป็นสถาบันฟัตวาที่เก่าแก่และเป็นที่ยอมรับของอูลามาอ์ทั่วโลก ได้ปฎิเสธแนวคิดและคำสอนของดร.ซากิร ไนก์ ซึ่งคำฟัตวาเหล่านี้ได้ส่งผลสะเทือนต่อความเชื่อมั่นและทำให้ความรู้แนวคิดของดร.ซากิร ไนก์ ที่กำลังแพร่ขยายและเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป กลายเป็นความรู้ที่ไม่ได้รับการรับรองจากอูลามาอ์ โดยเฉพาะจากสถาบันแห่งนี้ซึ่งเป็นสถาบันศาสนาที่เก่าแก่ที่เป็นแหล่งอ้างอิงความรู้ศานาทั่วโลก สถาบันแห่งนี้ถ้าเปรียบเทียบที่ประเทศที่อียิปต์ก็จะมีสถาบันอัล-อัซฮาร ซึ่งเป็นสถาบันการฟัตวาเกี่ยวกับปัญหาด้านศาสนา

ก่อนจะเข้ารายละเอียดเกี่ยวกับคำฟัตวา ผมขออนุญาติเกริ่นเกี่ยวกับสถาบัน อูลามาอ ดารุลอิฟตา ดารุลอูลุม ดิวบัน ซักนิดเพื่อเป็นพื้นฐานแก่ผู้อ่านที่ยังไม่เคยได้ยินและไม่เคยรู้จักว่า ดารุล อิฟตา ดารุลอูลุม ดิวบัน คืออะไร มีบทบาทอย่างไร มีความสำคัญอย่างไรบ้างในการรับใช้ศาสนาอิสลามในโลกมุสลิมในอดีตจนถึงปัจจุบัน

อินเดียเคยเป็นศูนย์กลางความรู้ฮะดิษที่ยิ่งใหญ่มานานกว่า 2 ศตวรรษ ที่อินเดียมีอูลามาอ์ที่เป็นสานัดฮะดิษ นบี ศล.หลายคนด้วยกัน สำหรับคนที่ไม่สนใจเรื่องฮะดิษคนจะแปลกใจเกี่ยวกับบทบาทอูลามาอ์ที่รับใช้ศาสนาในประเทศอินเดียและปากีสถาน เพราะทั้งสองประเทศถือว่าเป็นแหล่งของ มูฮัดดีซีนที่อาเล็มฮะดิษเป็นทียอมรับของนักฮะดิษทั่วโลก ที่นี่เป็นที่ที่มีผู้ที่ท่องจำและเป็นทั้งสานัดฮะดิษ จนถึงท่านนบีศล. และที่นี้ถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ฮะดิษที่สำคัญและมีชื่อเสียงของโลกมุสลิมทั้งในอดีตและปัจจุบัน

(คำว่า สนัด (السند ) ในแง่ของวิชาการนั้นหมายถึง "ความต่อเนื่องของนักรายงานจนถึงตัวบท "แนวทางที่นำ ไปสู่ตัวบทของหะดีษ" ซึ่งเป็นสำนวน จากการต่อเนื่อง ของนักรายงานหะดีษ ที่รับหะดีษมา จากคนหนึ่ง สู่อีกคนหนึ่ง เรื่อยไปจนถึงท่านร่อซู้ล (ศล.))

อูลามาอ์สานัดฮะดิษชาวอินเดีย ที่เป็นที่รู้จักคือ อัลอีหม่าม ชาห์ วาลี อัลลอฮ อัลดะห์ลาวี มีชีวิตตั้งแต่ 1114-1176 ฮิจริยะห์ ท่านเป็นเสาหลักของความรู้ด้านฮะดิษ อูลามาอ์มูฮัดดีซีนในอินเดีย โดยส่วนใหญ่แล้วสานัดฮะดิษในเอเชีย จะต้องผ่านท่าน ซึ่งที่อินเดียได้ชื่อว่า มัรกัซ อัลซานิด ฟี อัลฮินด์ หมายถึงอินเดียเป็นศูนย์กลางแห่งสานัดฮะดิษ ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาหนังสือสานัดฮะดิษได้จาก The Asanid of the Indian Subcontinent in the Sahihayn เขียนโดย เชค มูฮัมหมัด ดาเนียล เป็นตำราที่รวบรวมบรรดาชื่ออูลามาอ์ ดิวบัน จนถึงอีหม่าม ชาห์ วาลี อัลลอฮ อัลดะห์ลาวี และยังมีอีกที่หนึ่งที่มีอูลามาอ์ นักฮะดิษ และเป็นสถาบันการเรียนรู้ศาสนาและอัลฮะดิษที่เก่าแก่คือ นัดวา หรือลักเนา เป็นสถานที่ของเมาลานา อาบูฮาซัน อาลี อัลนัดวี สถาบันดารุล อิฟตา ดารุลอูลูม ดิวบัน และอันนัดวา ยังคงเป็นสถาบันที่เก่าแก่ดั้งเดิม เป็นสถาบันของอูลามาอ์อะห์ลุลซุนนะห์ วัลยามาอะห์ เป็นสถาบันที่ยอมรับจากทั่วโลก สถาบันดารุลอูลุม ดิวบันยังคงเป็นสถาบันที่ออกการฟัตวา(คำวินิฉัย) ปัญหาศาสนาในคาบสมุทรอินเดีย และในระดับโลกมาตลอดตั้งแต่ในอดีตจนถึงปจจุบัน

อูลามาอ์ดิวบัน ในทางฟิกฮ์เป็นผู้ที่สังกัดอยู่หนึ่งใน 4 มัสฮับ คือ อีหม่ามอาบูฮานีฟะห์ อีหม่ามชาฟีอี อีหม่ามมาลิก และอีหม่าม อะห์หมัด บินฮัมบัล และในด้านอากีดะห์ตามแนวทางอัชอารี (อาชาอีเราะห์) และมาตูรีดี และอูลามาอ์ดิวบันเป็นผู้ที่เคร่งในการปฎิบัติฟิกฮ์บนพื้นฐานของตาเซาวูฟ

‘นักปราชญ์ Iqbal นักกวีผู้ยิ่งใหญ่จากดินแดนแห่งตะวันออก ได้กล่าวเกี่ยวกับดารุลอูลูม ดิวบันว่า

"เมื่อมีคนถามว่า อะไรคือนิกายหรือลัทธิของดิวบันดี?" คำตอบคือ “ที่นี้ไม่มีลัทธิหรือนิกาย ดิวบันดี คือชื่อของมนุษย์ทุกๆคนที่เคร่งศาสนาที่มีเหตุผล ดิวบัน ไม่ใช่ลัทธิและนิกายแต่คือภาพของแนวทาง อะห์ลุลซุนนะห์ วัลยามาอะห์ที่ครอบคลุมและลึกซึ้ง"

‘ปราชญ์ Iqbal ได้กล่าวชื่นชมบทบาทของอูลามาอ์ของดิวบันว่า:

"ปล่อยให้มัดราซะห์แห่งนี้อยู่ในสภาพอย่างนี้ ให้นักเรียน นักศึกษา มุสลิมที่ยากจน สามารถเรียนที่มัดราซะห์แห่งนี้..........หลังจากที่ฉันได้มาเห็นกับตาด้วยตัวเอง รู้ไหมอะไรจะเกิดขึ้นกับชาวมุสลิมที่ประเทศอินเดียหากชาวมุสลิมในประเทศอินเดียไม่ได้รับอิทธิพลจากมัดราซะห์แห่งนี้ แน่นอนมันจะเกิดขึ้นเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ อันดาลุส(สเปน) หลังจากที่มุสลิมได้ปกครองอันดาลุส มา 800 ปี วันนี้เหลือแต่ซากปรักหักพังของพระธาตุโบราณ เกรเนดาและคอร์โดบาและ อัลฮัมรา แต่กลับไม่พบร่องรอยผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามและอารยธรรมอิสลามอีกเลย อินเดียก็เช่นกัน มีประวัติศาสตร์บันทึกของทัชมาฮาลและ ป้อมแดง กรุงเดลฮี ไม่พบร่องรอยของมุสลิมที่ปกครองเมื่อ 800 ปีก่อน แต่สิ่งที่ยังคงมีอยู่ที่นี้ที่เราพบเห็นคืออารยธรรมอิสลาม....."

อูลามาอ์ฮะดิษที่มีชื่อเสียงในศตวรรษสุดท้าย อัลลามะห์ เชค อับดุลฟัตตะห์ อาบู ฆูดดะห์ ได้กล่าวถึง ดารูลอูลูม ดิวบัน ว่า:

"ดิวบันเป็นมัดราซะห์ที่ดี เปรียบดั่งดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงอันสดใสไปทั่วทุกมุมของประเทศอินเดีย และปลุกซุนนะห์ให้ฟื้นขึ้นมา ปลุกความรู้วิชาการและการอาม้าลปฎิบัติ และได้กำจัดความมืดมิดและอุตริกรรมในดินแดนแห่งนี้ที่ถูกสะสมมายังยาวนาน...."

ในปัจจุบัน ดารุลอูลูม ดิวบัน ยังคงเป็นสถานที่ของมูฮัดดีซีน บรรดานักหะดิษที่มีผู้รู้จากทั่วโลกได้มาที่นี้เพื่อเรียนศาสนา เรียนหะดิษและรับสานัดหะดิษ ไม่ว่าจะเป็นสะนัดฮะดิษศอฮีห์บูคอรีและศอฮีห์มุสลิม

ขอยกตัวอย่างชื่ออูลามาอ์ผู้ที่เป็นสายรายงานหะดิษศอฮีห์บูคอรี จากอินเดีย ไล่สายรายงานฮะดิษศอฮีห์บูคอรี จนถึง ชาห์วาลี อัลลอฮ อัล ดิห์ลาวี มีดังนี้

1.อะห์หมัด อัลมาดานี (1296-1377 ฮิจริยะห์) 2.มะห์หมูด ฮาซัน อัลดิวบันดี (1268-1339 ฮิจริยะห์) 3.มูฮัมหมัดกอเซ็ม อัล นาเนาตวี (1248-1297ฮิจริยะห์) 4.ชาห์ อับดุล ฆอนี อัลมุยัดดิดี (1235-1295ฮิจริยะห์) 5.ชาห์ มูฮัมหมัด อิสฮาก อัล ดิห์ลาวี (1197-1262ฮิจริยะห์) 6.ชาห์ อับดุล อัลอาซิส อัล ดิห์ลาวี (1159-1239ฮิจริยะห์) 7.ชาห์วาลี อัลลอฮ อัล ดิห์ลาวี (1114-1176ฮิจริยะห์)

ยังมี สานัด ผู้เป็นสายรายงานฮะดิศศอฮีห์บูคอรีและมุสลิมอีกมากมายที่เป็นชาวอินเดียซึ่งไว้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนเรื่องนี้เพิ่มเติมต่อไป ขอกลับมาสู่ประเด็นเกี่ยวกับการฟัตวา วินิฉัยของอูลามาอ์ดิวบันต่อแนวทางและหลักความเชื่ออากีดะห์ของดร.ซากิรไนก์ ว่าเป็นอย่างไร ในขณะที่ ดร.ซากิร ไนก์ เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางจากนอกประเทศ แต่ในทางกลับกันเขากลับไม่เป็นที่ยอมรับของอูลามาอ์ อะห์ลุลซุนนะห์ วัลยามาอะห์ในประเทศตัวเองคือประเทศอินเดียและประเทศเพื่อนบ้านปากีสถาน

ผมได้รวบรวมข้อมูลส่วนหนึ่งจากสถาบันฟัตวา ดารุลอูลุม ดิวบัน ที่ได้ฟัตวาเกี่ยวกับอันตรายของแนวคิด ดร.ซากิร ไนก์มีดังต่อปนี้

 

คำฟัตวาที่ 1:

"สรุปจากการศึกษาแนวทางของ ดร.ซากิร ไนก์ เขาได้ออกจากแนวทางอะห์ลุลซุนนะห์วับยามาอะห์ ในหลายๆหลักการเกี่ยวกับหลักอากีดะห์ และในเรื่องเกี่ยวกับการอธิบายอัลกุรอานและฮะดิษ เขาได้ละทิ้งความหมาย การตัฟซิรและการอธิบายจากอูลามาอ์และปราชญ์ในอดีตโดยเขาใช้สติปัญญาอันน้อยนิดของเขา และเขาได้ตกเป็นเหยื่อที่ได้มีการสอดแทรกแนวคิดของเขาในความหมายเกี่ยวกับการตัฟซิร นอกจากนี้ เขาไม่มีศาสตร์ความรู้ศาสนาที่ลึกซึ้งและได้ละเลยเป้าหมายของชารีอะห์ เขาไม่ได้ตามบรรดาอีหม่ามทั้ง 4 และไม่สังกัดมัสฮับ ในความเป็นจริงแล้วเขาได้ไปทางอื่นและเขาได้วิจารณ์อีหม่ามมุจตะฮิด มากไปกว่านั้นคำพูดของเขาไม่สามารถให้นำ้หนักในการใช้พิจารณา เป็นอันตรายอย่างยิ่งในการ ดู ร่วม ฟัง โปรแกรมการบรยายของเขาแล้วรับไปปฎิบัติโดยไม่ได้ทำการศึกษาค้นคว้าให้ละเอียดเสียก่อน ไม่มีความชัดเจนและไม่เป็นที่แน่นอนว่าคนที่ฟังจากเขาจะทำการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ดังนั้นมุสลิมทั่วไปควรที่จะหลีกห่างออกจากโปรแกรมของเขา ชาวมุสลิมทุกคนควรตระหนักเสมอว่าเรื่องของศาสนาไม่ใช่เรื่องของความรู้สึก หรือได้ยินคนใดคนหนึ่งพูดเรื่องศาสนาแล้วนำไปปฎิบัติเท่านั้นแล้วจะทำให้เราปลอดภัยในวันอาคีรัต เราไม่ควรปฎิบัติศาสนาเพียงเพราะได้รับคำตอบมากมายอย่างรวดเร็วและเพราะเขาได้รับการยอมรับในหมู่ผู้คน แต่ ในความเป็นจริง สิ่งสำคัญที่สุดที่เราจะรับความรู้ศาสนาจากคนใดคนหนึ่งเราต้องรู้ว่าเขามีจุดยืนในเรื่องศาสนาอย่างไร ใครคืออาจารย์ที่เขาเรียนรู้รับความรู้ศาสนามา?นอกจากนี้ต้องดูว่าบรรดาผู้รู้อูลามาอ์ในยุคสมัยนั้นได้พูดอย่างไรเกี่ยวกับตัวเขา?เขาได้เติบโตมาในสภาพแวดล้อมอย่างไร?เขามีแนวทางวิถีชีวิต บุคลิกการแต่งกายอย่างไร ?เขาได้ใช้ชีวิตคลุกคลีกับบรรดาผู้รู้และอูลามาอ์ที่มีความเคร่งศาสนาหรือไม่? ในทำนองเดียวกันก็ควรดูว่า คนเหล่านั้นที่อยู่รอบตัวเขาได้รับผลกระทบอย่างไร เขามีความตระหนักในศาสนามากน้อยแค่ใหน และมีความน่าเชื่อถือในการรับใช้ศาสนาหรือไม่? ถ้าล้อมรอบเขามีคนที่น่าเชื่อถือ เป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องถามจากคนรอบตัวเขาว่าเขาเป็นคนอย่างไร?และทำไมพวกเขาถึงใกล้ชิดกับเขา?ไม่ใช่เพราะการใกล้ชิดสนิทกับเขาเพราะเพื่อผลประโยชน์และต้องการความได้เปรียบบางอย่าง ปมหลักของเรื่องนี้คือเมื่อเราได้ทำการศึกษาค้นคว้าเป็นที่พึ่งพอใจแล้วคำกล่าวของเขาจึงจะน่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับและสามารถนำไปปฎิบัติได้ ไม่อย่างนั้น เพื่อความปลอดภัยในด้านอากีดะห์เราจึงควรออกห่างจากเขา ดั่งปราชญ์ในยุคตาบีอีที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งมีนามว่า มูฮัมหมัด บิน ซีรีน ได้กล่าวไว้ว่า (إن هذا العلم دين فانظروا عمن تأخذون دينكم) ในการเรียนรู้ศาสนาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งจากผู้ที่จะถูกรับความรู้หรือเรียนรู้ศาสนาจากเขา ขอให้อัลลอฮ ซบ.ให้ทุกคนอยู่บนหนทางที่เที่ยงตรง" โดย ไซนุลอิสลาม กอซีมี อิลลาฮ อาบาดี Deputy Mufti,ดารุลอิฟตา, ดารุลอูลูมดิวบัน ฟัตวาเมื่อวันที่ 24.02.2011 ตรงกับ 20.03.1432 H

 

คำฟัตวาที่ 2:

มีคำถามถามถึงดารุลอิฟตา ดารุลอูลูม ดิวบัน ว่า

" ทำไมเราต้องตามหนึ่งใน สี่มัสฮับ ทำไมไม่ตามอัลกุรอานและฮะดิษโดยตรง ไม่ได้หมายถึงว่าต้องละทิ้ง 4 มัสฮับ หรือแต่หมายถึงเราตามปัจเจกบุคคลที่ทำการวินิฉัย ฟัตวาเอง อย่างเช่น ดร.ซากิร ไนก์ คุณ มูฮัมหมัด ซอลาห์ (ฮูดาทีวี) ที่เรียกว่า Salafi พวกเขาได้เอาหลักฐานจากอัลกุรอานและฮะดิษศอฮีห์ อยากถามว่าเราควรตามบรรดาอูลามาอ์อีหม่าม 4 มัสฮับหรือนักศาสนาที่รู้ดีเกี่ยวกับอัลกุรอานและฮะดิษศอฮีห์?"

คำฟัตวา

1.คำวินิจฉัยทางกฎหมายอิสลามของบรรดาอีหม่ามทั้ง 4 ไม่ได้เป็นลัทธิหรือนิกาย เพียงแต่เป็นความแตกต่างของการเอาหลักฐานพิสูจน์เพื่อการวินิจฉัย ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในทัศนะของชารีอะห์ แต่กลับกลายเป็นแหล่งของหลักฐานที่เป็นเมตตาให้กับประชาชาติตามฮะดิษ สำหรับใครก็ตามที่ไม่มีความสามารถในการอิจติฮาตเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเขาที่จะต้องตามอีหม่ามท่านใดท่านหนึ่งจาก 4 ท่าน ซึ่งเขาไม่สามารถปฎิบัติชารีอะห์โดยที่ไม่ตักลิดและไม่เป็นทีอนุญาติที่จะตามฟัตวาชี้ขาดของอีหม่าม อาบูฮานีฟะห์ (رحمةالله) ในเรื่องหนึ่ง ตามอีหม่ามมาลิก (رحمةالله) ในเรื่องหนึ่ง อีหม่ามชาฟีอี (رحمةالله) ในการฟัตวาเรื่องหนึ่ง และตามคำฟัตวาของอีหม่าม อะห์หมัด (رحمةالله) ในอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นการ "ตัลฟิก" ซึ่งถือว่าฮาราม ควรทราบไว้ว่าทั้ง 4 อีหม่าม ไม่ได้แตกต่างในคำวินิจฉัยทั้งหมด พวกเขามีความเห็นต่างกันในเรื่องความหมายอัลกุรอานและฮะดิษที่มีความหมายมากกว่าหนึ่งความหมายหรือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ไม่มีในอัลกุรอานและฮะดิษได้กล่าวถึง

2.ได้มีคำฟัตวาเกี่ยวกับ ดร.ซากิร ไนก์ ในเว็บไซต์ของ ดารุลอูลูมดิวบัน ท่านควรอ่านจะได้รู้ว่าใครคือดร.ซากิร ไนก์? ใครคือ มูฮัมหมัด ซาละห์ จากสถานีโทรทัศน์ฮูดา เราไม่รู้จักเขา แต่ถ้าท่านหมายถึง อัลฮูดา อินเตอร์เนชันแนล ที่มีดร.ฟัรฮัต ฮาชิม บรรดา อะห์ลีฮักทั้งหมดอูลามาอ์จากประเทศปากีสถานได้เห็นร่วมกันว่าเขาเป็นผู้เบี่ยงเบน และในส่วน "สาลาฟี ฆอยร์ มูก็อลลิดีน" ที่เราพูดถึง พวกเขาคือแนวทางบิดเบือนและออกจากแนวทางอะห์ลุลซุนนะห์ วัลยามาอะห์ เพราะพวกเขาได้ปฎิเสธกียาสและอิจมาอ์ พวกเขาได้มีทัศนะเกี่ยวกับอัลกุรอานและอัลฮะดิษที่ขัดแย้งกับศอฮาบัต ตาบีอีน ทัศนะส่วนใหญ่ของอุมมะห์ถือว่าไม่เป็นอะห์ลุลซุนนะห์ วัลยามาอะห์ ดังนั้นไม่เป็นที่อนุญาติในการเชื่อและตามฆ็อยร์ มูก็อลลิด ตามมติของอูามอ์ อะห์ลุล ฮัก พวกเขาได้นำพาคนที่ตาม พวกเขาไปในแนวทางที่ผิด

3. ตามทัศนะอูลามาอ์ อะห์ลุล ฮัก (ปากีสถาน)และตามคำฟัตวาของอูลามาอ์ สำนักฟัตวา ดิวบัน ประเทศอินเดีย ดร.ซากิร ไนก์ เป็นบุคคลที่ออกจากแนวทางของอูลามาอ์ มุอตาบัร และเป็นบุคคลที่มีความเข้าใจที่จัดอยู่ในกลุ่ม .ฆ็อยร มุก็อลลลิด., (อ้างอิงคำฟัตวาเลขที่: 415/1219/N=10/1434) สามารถ คลิ๊กเพื่ออ่านคำฟัตวาได้จาก:http://www.darulifta-deoband.com/home/en/Deviant-Sects/44130

 

คำฟัตวาที่ 3:

คำถาม คุณมีทัศนะอย่างไรเกี่ยวกับ ดร.ซากิร ไนก์? เราควรตามทุกอย่างที่เขาพูดหรือไม่? หรือมีอะไรบางอย่างที่เขาเผยแพร่ที่ขัดต่อมัสฮับหรือขัดต่ออากี ดะห์ หากมีอะไรที่เขาสอนหรือเผยแพร่ที่ขัดต่อมัสฮับหรืออากีดะห์ ของเรา ขอให้คุณช่วยชี้แจงด้วยด้วย?

คำวินิจฉัย: เขา ดร.ซากิร ไนก์ จัดอยู่ในกลุ่ม ฆ็อยรมูก็อลลิด และความรู้ของเขาไม่ลึก ความรู้ของเขาไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นมุสลิมควรอกห่างจากการฟังการบรรยายของเขา (อ้างอิงคำฟัตวา : 352=363/Bhttp://www.darulifta-deoband.com/home/en/Dawah--Tableeg/171)

ตามทัศนะอูลามาอ์ อะห์ลุล ฮัก (ปากีสถาน)และตามคำฟัตวาของอูลามาอ์ สำนักฟัตวา ดิวบัน ประเทศอินเดีย ดร.ซากิร ไนก์ เป็นบุคคลที่ออกจากแนวทางของอูลามาอ์ มุอตาบัร และเป็นบุคคลที่มีความเข้าใจที่จัดอยู่ในกลุ่ม .ฆ็อยร มุก็อลลลิด (ไม่สังกัดมัสฮับ) มาดูว่าบุคคลที่ถูกเรียกว่า ฆ็อยร์ มูก็อลลิด ในทัศนะของ ดารุลอิฟตา ดารุลอูลูมดิว บัน และ อะห์ลีฮัก ปากีสถาน คืออะไร และเมื่อบุคคลใดที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มฆ็อยร มุก็อลลิด เราสามารถตามแนวทางของเขาได้หรือไม่ ?

จากคำฟัตวาส่วนหนึ่งได้ให้ความหมายคำว่า ฆ็อยร์ มูก็อลลิด มีดังนี้

"….If by Salafi belief you mean the Ghair Muqallidin as they too call themselves as salafi, then since they have differences in some important and basic rulings with Ahl Sunnah al-Jamah such as the refusal of Hujjiyat Ijmah and Qiyas etc, therefore they are out of the Ahl Sunnah al-Jamah without any doubt. One should stay away from them."

หมายถึง

"ถ้าเป็นความเชื่อแนวทางของสาลาฟีที่คุณหมายถึง พวกเขาคือ ฆ็อยร์มูก็อลลีดีน พวกเขาเรียกกลุ่มพวกเขาว่าสาลาฟี พวกเขามีความแตกต่างในเรื่องหลักการพื้นฐานและแตกต่างในด้านกฎเกณฑ์ที่สำคัญของแนวทางอะห์ลุลซุนนะห์ วัลยามาอะห์ เช่นพวกเขาได้ปฎิเสธการ อิจมาอ์ของอูลามาอ์และกียาส และอื่นๆ ด้วยเหตุดังกล่าวพวกเขาได้ออกจากแนวทางอะห์ลุลซุนนะห์วัลยามาอะห์อย่างไม่มีข้อสงสัย ทุกคนควรออกห่างจากพวกเขา” (คำฟัตวา: 415/1219/N=10/1434) หรือดูอ้างอิงได้จาก:http://www.darulifta-deoband.com/home/en/Deviant-Sects/44130 )

ความเข้าใจคำว่า ฆ็อยร มุก็อลลิด ตามฟัตวาของอะห์ลีฮัก ปากีสถาน หมายถึงความเข้าใจศาสนาที่ออกจากแนวทางอะห์ลุลซุนนะห์วัลยามาอะห์และไม่อนุญาติให้ตาม ดูคำฟัตวาข้อ (3) it is not lawful as per the Ulama of Ahl Haq to trust Ghair Muqallid Ulama "ไม่เป็นที่อณุญาติ ให้เชื่อหรือตามแนวทาง ฆ็อยร์มูก็อลลิด" ….. อ้างอิงดูคำฟัตวา คำถาม 44130 ข้อ 3 ฟัตวา : 415/1219/N=10/1434) ลิงค์อ้างอิง:http://www.darulifta-deoband.com/home/en/Deviant-Sects/44130

ยังมีหลักฐานคำฟัตวาอีกมากมายจากอูลามาอ์ ดิวบัน เกี่ยวกับดร.ซากิร ไนก์ ว่าแนวทางของดร.ซากิร ไนก์จัดเป็น ฆ็อยร์มูก็อลลิด เป็นแนวคิดที่อันตราย และได้ถูกห้ามไม่ให้ตามเช่น

1.(คำถามที่ 271) "คุณมีทัศนะอย่างไรเกี่ยวกับ ดร.ซากิร ไนก์? เราควรตามทุกอย่างที่เขาพูดหรือไม่? หรือมีอะไรบางอย่างที่เขาเผยแพร่ที่ขัดต่อมัสฮับหรือขัดต่ออากีดะห์ หากมีอะไรที่เขาสอนหรือเผยแพร่ที่ขัดแย้งต่อมัสฮับหรืออากีดะห์ ของเรา ขอให้คุณช่วยชี้แจงด้วยด้วย?"

คำตอบคำวินิจฉัยที่ 271 "เขา ดร.ซากิร ไนก์ เป็นคนที่จัดอยู่ในกลุ่ม ฆ็อยร์มูก็อลลิด และความรู้ของเขาไม่ลึก ความรู้ของเขาไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นมุสลิมควรออกห่างจากการฟังการบรรยายของเขา" (สามารถดูอ้างอิงคำฟัตวาได้จาก : (ฟัตวา 352=363/B) ฟัตวาวันที่ 29 April 2007 ดูเว็บไซต์:http://www.darulifta-deoband.com/home/en/Dawah--Tableeg/171)

2.(คำถามที่ 2415) เกี่ยวกับนักบรรยายมุสลิมที่มีชื่อเสียงชื่อ ดร.ซากิร ไนก์ ทางดิวบันมีทัศนะอย่างไรต่อสิ่งที่เขาได้ทำและเกี่ยวกับความความเชื่อของเขา เขาอยู่บนแนวทางที่ถูกต้องหรือไม่ ในฐานะที่ฉันเป็นคนธรรมดาฉันควรจะฟังหรือตามเขาได้หรือไม่?

(คำวินิจฉัยที่ 2415) "ศาสนาควรเรียนรู้จากอูลามาอ์ที่ได้รับการรับรองและหนังสือที่ได้รับการตรวจสอบที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเชื่อและความคิดทัศนคติที่เราทราบเกี่ยวกับเขา (ดร.ซากิร ไนก์) เขาได้บิดเบือนออกจากแนวทางอูลามาอ์ในหลายๆอย่างด้วยกัน แนวทางของเขาดูเหมือนจะขัดแย้งกับแนวทาง สาลาฟ ที่แท้จริง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมโปรแกรมกับเขา อย่างไรก็ตามถ้าคุณได้ร่วมโปรแกรมเขาแล้วคุณอย่ารีบตามเขาทันทีจนกว่าจะยืนยันความรู้จากผู้รู้คนอื่นๆที่อาลิม"

(สามารถดูอ้างอิงคำฟัตวาได้จาก (ฟัตวา: 1058/1058=J) หรือคลิ๊กเข้าอ่านในเว็บไซต์ได้ที่ :http://www.darulifta-deoband.com/ho…/…/Dawah-Tableeg/2415%20

เห็นได้ชัดว่า กลุ่มสาลาฟี หรือบ้านเราเรียกว่าวะห์ฮาบี อูลามาอ์ดิวบันประเทศอินเดียและอูลามาอ์อะห์ลีฮักปากีสถาน ได้จัดพวกเขาอยู่ในกลุ่ม "ฆ็อยร์มูก็อลลิด" คือกลุ่มที่ออกจากแนวทาง อะห์ลุลซุนนะห์ วัลยามาอะห์ และอูลามาอ์ส่วนใหญ่ได้ปฎิเสธไม่รับรองแนวทางของกลุ่มนี้ ส่วนดร.ซากิร ไนก์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ฆ็อยร์ มูก็อลลิด ตามคำฟัตวาของอูลามาอ์ดิวบันและอะห์ลีฮักปากีสถาน

ความถูกต้องของศาสนาไม่ได้วัดกันว่าใครมีชื่อเสียงโด่งดังแล้วหมายถึง อากีดะห์ของเขาจะอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง และใครที่ไม่มีชื่อเสียงแล้วอากีดะห์ของเขาหลงทาง อากีดะห์ที่ถูกต้องของศาสนาไม่ได้วัดที่ ทีวี เฟสบุค ยูทูบ หรือว่าใครเป็นแฟนชื่นชอบเขามากน้อยเพียงใหน หรือใครสามารถเปลี่ยนศาสนาให้คนต่างศาสนิกเข้ารับอิสลามมากกว่ากัน ระหว่างผู้รู้มากมายที่ไม่มีทุนทรัพย์ในการทำช่องทีวี ไม่เคยสอนศาสนาออกอากาศทางทีวี ไม่เคยมีเฟสบุค ไม่เคยเล่นยูทูบ กับอีกกลุ่มหนึ่งคือ คนยาเฮล แต่ได้เงินจากอาหรับแล้วมีช่องทีวีเป็นของตนเอง สามารถออกมาสอนศาสนาผ่านทีวี ผ่านเฟสบุค ผ่านยูทูบทุกวัน แล้วกลายเป็นว่าคนที่ออกสื่อทีวีทุกวันคือเกณฑ์วัดว่าเขามีอากีดะห์ศาสนาที่ถูกต้องกระนั้นหรือ?แล้วผู้รู้ที่ยากจนไม่มีทีวีไมมีเฟสบุค คือผู้ที่มีอากีดะห์ที่หลงทาง ใช่หรือไม่? ใช่ บ้านเราอาจจะใช่เพราะสิ่งเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นค่านิยมวัดความถูกผิด กฎเกณฑ์กำลังถูกเปลี่ยนให้เป็นอย่างนั้นแต่สำหรับมาตรฐานของศาสนา ณ ที่อัลลอฮไม่ได้วัดกันที่ตรงนั้นแน่นอน

ลองย้อนมองกลับไปในอดีต ตอนปฎิวัติอีหร่าน อีหม่ามโคมัยนี คือฮีโร่ เป็นผู้ที่ถูกเรียกว่าเป็นผู้นำอูลามาอ์ที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพล เป็นที่ชื่นชอบ ของคนหลายคนทั่วโลกมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่เวลาผ่านไปซักพักหนึ่ง เมื่อความจริงค่อยๆปรากฎอีหม่ามโคมัยนีกลับไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคาดฝันไว้ คนหนุ่มสาวบ้านผมตอนนั้น ก็ชื่นชอบอีหม่ามโคมัยนี เนื่องจากสื่อได้ ประโคมข่าว สร้างให้โคมัยนีเป็นวีรบุรุษ แต่เมื่อเราได้ศึกษาข้อมูลมากขึ้น ปรากฎว่าอีหม่ามโคมัยนีไม่ใช่อย่างที่เรารู้จักอย่างที่สื่อได้สร้างภาพมากมายให้เราชื่นชอบ อีกทั้งท่านก็เป็นชีอะห์ ซึ่งต่อมาทำให้ความนิยมชื่นชอบท่านก็เริ่มหดหายเหลือเฉพาะกลุ่มชีอะห์เท่านั้น และมีเบื้องลึกเบื้องหลังอีกมากมายที่เราต้องมาผิดหวังทีหลังเกี่ยวกับอีหม่ามโคมัยนีที่ได้สถาปนารัฐอิสลามในแบบของชีอะห์ เช่นเดียวกันกับปัจจุบันการปรากฎตัวของ รัฐอิสลาม ISIS ในตอนแรกหลายคนพากันชื่นชม สนับสนุน อาบูบากัร อัลบัฆดาดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปซักพักหนึ่งความจริงหลายอย่างก็ได้ปรากฎ อูลามาอ์หลายคนทั่วโลกที่เคยประกาศจุดยืนสนับสนุน ISIS กลับประกาศจุดยืนคัดค้านไม่เห็นด้วยกับ ISIS ซึ่งเป็น สาลาฟี ญีฮาดี สุดโต่ง จนถูกอูลามาอ์ปฎิเสธว่าไม่ใช่แนวทางอิสลาม กำลังเลยเถิดถึงขั้นเป็นคอวาริจ ดังนั้น ดร.ซากิร ไนก์ เองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ ณ เวลานี้ท่านเป็นที่ชื่นชอบของคนมากมายแต่เมื่อลงรายละเอียดด้านฟิกฮ์และอากีดะห์ของท่านแล้วอูลามาอ์ได้จัดท่านอยู่ในกลุ่ม ฆ็อยร์มูก็อลลิด

ทั้งหมดที่นำเสนอไม่ได้ต้องการดิสเครดิตคนที่ชื่อ ดร.ซากิร ไนก์ เพราะผมเองก็ชื่นชอบท่านและฟังการบรรยายของท่าน แต่เพียงเพราะศาสนาคือการตักเตือน เมื่ออูลามาอ์ได้เตือนเราคนธรรมดาก็ควรระวัง เมื่อรับความรู้จากท่านแล้วก็อย่ารีบกลืนกลมๆลงท้องแต่ให้ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อจะได้ไม่ถลำหรือผิดพลาดโดยเฉพาะเมื่อรับมาจากท่านเกี่ยวกับเรื่องฟิกฮ์และอากีดะห์ การระวังตามที่อูลามาอ์ได้ตักเตือนไว้ ถือว่าไม่เสียหาย เพื่อความปลอดภัยของเราในด้านการยึดปฎิบัติคำสอนของอิสลามเพื่อให้ยืนอยู่บนแนวทางที่เที่ยงตรง

ด้วยประการทั้งปวง ทุกอย่างเมื่อลงในรายละเอียดเพื่อนำเอาไปปฎิบัติแล้วเราจะเอาความมันส์ความสนุกความดูดีมาวัดความถูกต้องไม่ได้ เหมือนกับรถยนต์หนึ่งคันที่ผลิตออกมาแล้วดูสวย หรู น่าขับ สมบูรณ์เกือบทุกอย่างในสายตาเรา แต่ปรากฎว่าวิศวกร ผู้เชี่ยวชาญของสถาบันผลิตรถยนต์ทั่วโลก 99% ได้ออกมา บอกว่ารถคันนี้ไม่ผ่านมาตรฐาน ไม่สามารถขับได้เพราะจะทำให้เกิดอันตราย เพราะได้ผ่านการตรวจสอบจากสถาบันวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก ได้เช็ดดูรายละเอียดและถอดชิ้นส่วนออกทีละชิ้นๆปรากฎว่าชิ้นส่วนที่นำมาใช้ประกอบรถยนต์ที่ดูว่าสวยเหมือนของแท้จริงๆแล้วเป็นของปลอม ซึ่งถ้านำมาขับแล้วโอกาสจะทำให้เกิดอันตรายได้ แต่กลับมีวิศกรแค่ 1% ของสถาบันผลิตรถยนต์เห็นต่างกลับรับรองว่ารถคันนี้ผ่านมาตรฐาน เราสามารถขับได้ สำหรับคนที่ฉลาดมีสติปัญญา เขาย่อมจะตามผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ที่ให้การรับรองมากกว่า เพราะไม่มีใครที่ต้องการเอาชีวิตัวเองไปเสี่ยงเล่นๆไปขับขี่รถยนต์ที่สถาบันตรวจสอบมาตรฐานทั่วโลกว่าไม่ผ่านมาตรฐาน เพราะโอกาสจะเกิดอันตรายและจะเกิดอุบัติเหตุมีมากกว่า มันคือความปลอดภัยของชีวิต ครอบครัวและคนรอบข้าง แล้วนับประสาอะไรในเรื่องศาสนา เรื่องอากีดะห์ ยิ่งต้องระมัดระวังยิ่งกว่าอีกเพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยของเราในวันอาคีรัต เพราะเราถ้าพลาดแล้วไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ตัวใหม่ได้อีกต่อไป เผลอๆ ผู้เชี่ยวชาญ 1% เขาเองก็ไม่มั่นใจที่จะขับรถที่ตัวเองได้ตรวจสอบและรับรองว่าผ่านมาตรฐานเพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญจริงๆแต่ เป็นผู้เชี่ยวชาญเพราะความจำเป็นเท่านั้นเอง

ในฐานะที่เราเป็นคนธรรมดาไม่มีความรู้เรื่องศาสนาเราต้องเรียนรู้ ถามและอาศัยผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญมาคัดกรองว่าถูกต้องตามหลักความรู้ที่เป็นที่ยอมรับของผู้เชี่ยวชาญหรืออูลามาอ์ส่วนใหญ่จากทั่วโลกให้การรับรองว่าได้ผ่านมาตรฐานแนวทางของบรรดาชาวสาลาฟหรือไม่ แน่นอนการยืนหยัดตรวจสอบคัดกรองเกี่ยวกับศาสนาคือบทบาทของอูลามาอ์ สถาบันอูลามาอ์ของอะห์ลุลซุนนะห์ วัลยามาอะห์จากทั่วโลกยังคงทำหน้าที่ บนจุดยืนในการวินิจฉัย อย่างตรงไปตรงมา เพื่อดำรงอยู่ซึ่งความถูกต้องของหลักการศาสนาต่อไป ถึงแม้ว่าจะมีคนกลุ่มหนึ่งไม่ถูกใจกับคำวินิจฉัยของพวกเขาก็ตาม

วัลลอฮฮูอะลัม

 

 

อ่านตอนที่แล้วได้ที่

ใครคือ ดร.ซากิร ไนก์ และเขามีแนวทางอย่างไร? ตอนที่ 1 ชีวประวัติ ดร.ซากิรไนก์ และ เชคอะห์หมัด ดีดาต

ใครคือ ดร.ซากิร ไนก์ และเขามีแนวทางอย่างไร? ตอนที่ 2 : ข้อกังวล ของอูลามาอ์ อะห์ลุล ซุนนะห์ วัลยามาอะห์ ต่อแนวทางอากีดะห์และฟิกฮ์ ของ ดร.ซากิร ไนก์