Skip to main content

 

Abdulloh Wanahmad; awan book

หนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ไม่มีใครหยั่งรู้ถึงความน่าจะเป็นที่อาจปรากฏขึ้นบนบรรณพิภพแห่งนี้ได้ ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางออกฉันใด ปัญหาปาตานีย่อมมีทางออกฉันนั้น ทว่ากว่าจะถึงจุดนั้น ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่า ชีวิตของผู้คนที่นี่ จะต้องประสบพบเจอกับปัญหาแห่งความขัดแย้งนี้อีกนานเท่าใด?

จะว่าไปแล้ว ทุกสังคมที่ดำรงอยู่ในโลกอันไพศาลแห่งนี้ ย่อมมีความขัดแย้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องอาศัยปัจจัยที่คู่ควรมั่นเหมาะที่จะลุกโชนเท่านั้นเอง ในสังคมปาตานีก็เช่นกัน ที่ได้อุบัติขึ้นหลังจากที่ปาตานีได้ประสบกับความปราชัยให้กับสยามประเทศ ณ ช่วงอดีต ที่กลายเป็นเชื้อไฟอย่างดีที่คอยพัดกระหน่ำความขัดแย้ง ให้ยังคงบรรเลงบนดินแดนแห่งนี้อย่างไม่รู้จบสิ้น

http://download.clib.psu.ac.th/datawebclib/exhonline/limkoneaw/images/1085596050kananurakcom5.jpg

นับตั้งแต่สมัยที่ดาบคืออาวุธแห่งยุทธปัจจัยในการยาตราทัพต่อกรกับข้าศึก ที่ไม่ได้มีเหตุผลเพื่อปรารถนาผูกมิตรไม่ หากแต่เป็นการประกาศศักดาของตนให้ข้าศึกรู้และน่าหวั่นเกรงต่อศักยภาพและพลานุภาพแห่งกองทัพของตนเท่านั้นเอง ปาตานีก็เช่นกันที่ตกอยู่ในสภาพการถูกเอารัดเอาเปรียบจากหัวเมืองทางเหนือของแหลมมลายู ที่มีความได้เปรียบในการสรรหาหัวเมืองพันธมิตรในการรวมหัวกันในการโจมตีเมืองปาตานี ที่ยังอยู่ในสภาพการเตรียมการอยู่ตลอดเวลา

หากย้อนดูประวัติศาสตร์ปาตานี จะพบว่าปาตานีเองถือเป็นเมืองที่เข้มแข็งในด้านการป้องกันเมืองในขณะนั้น ถึงแม้นปาตานีจะตกอยู่ในการปกครองของกษัตรีย์ก็ตาม  ทว่าจนแล้วจนรอดในที่สุดปาตานีต้องถึงกาลอันตรธานแห่งอธิปไตยแก่ชนชาวสยาม ที่พยายามจนสำเร็จด้วยกลยุทธ์ทางการทหารและการล่วงรู้จุดอ่อนของเมืองปาตานี จนในที่สุดเมืองที่ได้ชื่อว่าที่มีความแข็งแกร่งต้องสลายพังราบลงอย่างราบคาบ

ปืนไฟและคมดาบ ทัพม้าและฝูงช้าง ต่างร่วมกันทำลายเมืองปาตานีอย่างราบเรียบ มัสยิดแห่งกัวลาบือกอฮ์ถูกวางเพลิงพร้อมๆ กับชุมชนเมือง ที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่อย่างหนาแน่นเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ราวกับว่าเป็นการฆาตกรรมหมู่เพื่อทำลายบ้านเรือนให้สิ้นซาก พร้อมๆ กับการจับพลเรือนเป็นเชลยศึก นี่คือเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ยังคงเล่าเรื่องด้วยตัวของมันเอง

ถึงแม้นประชาชนในยุคดังกล่าวของทั้งสองฟาก จะไม่มีอยู่แล้ว ณ ปัจจุบัน ทว่าความจริงของความจริงก็ยังคงดำเนินไปตามวิถีของมัน จนในที่สุดความจริงเหล่านั้นได้แปรสภาพจากความเคียดแค้นสู่ความหึกเหิมในมโนสำนึกของปุถุชนที่มีปัญญาอันเฉลี่ยว จนต่อมาได้พัฒนาสู่การคิดวิเคราะห์เพื่อวางกรอบในการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย ที่ดาบและปืนไฟไม่มีบทบาทเช่นเก่าก่อนแล้ว ในยุคที่ม้าและช้างดำรงชีวิตอยู่ในสวนสัตว์ ที่ยุทธปัจจัยแห่งกองทัพที่ได้สร้างวีรกรรมในอดีตได้ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์สถาน มาวันนี้อาวุธสมัยใหม่กลับมาแทนที่ในการสำแดงแสนยานุภาพ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยมนุษย์ เพื่อใช้ในการป้องกันอธิปไตยและความมั่นคงของแต่ละประเทศ ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ล้วนจะถูกใช้ในหนทางแห่งการรุกรานด้วยเหตุผลเพื่อสถาปนาสันติภาพและเพื่อความผาสุกของมวลมนุษย์

มาวันนี้ ปัญหาปาตานีได้ล่วงเลยมาเป็นระยะเวลาหลายสิบทศวรรษมาแล้ว ที่ยังคงเล่าเรื่องของมันด้วยบทเพลงแห่งความขัดแย้ง ที่มีปัจจัยภายนอกรวมกันขับเคลื่อนปัญหาปาตานีจนกลายเป็นวิกฤติ เสมือนไร้ตัวยาอันใดแล้ว ที่จะสามารถเยียวยาและหยุดยั้งตัวปัญหานี้ได้ ยิ่งวันเวลาผ่านไปนานเท่าใด ปัญหาดูเหมือนจะยิ่งมีความซับซ้อนขึ้นเท่านั้น

ยิ่งเป็นยุคไฮเทค ข้อมูลข่าวสารล้วนมีความรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส การระงับข่าวปิดมูลความจริง ได้อยู่เหนือที่มนุษย์จะควบคุมได้อีกต่อไปแล้ว

ปัญหาปาตานีก็เช่นกัน ได้กลายเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังจนติดปากในชีวิตประจำวันของสังคมไปโดยปริยาย จากอดีตที่เป็นเรื่องลึกลับ ราวเป็นเรื่องที่ถูกมนตรา มิอาจเล่าสู่กันฟังระหว่างกันได

ปัญหาปาตานีถูกขับขานด้วยชีวิตของผู้คนมานักต่อนักแล้ว ด้วยพลทัพของประชาชนของทั้งสองฝั่ง ที่ต่างเดิมพันชีวิตของตนให้กับแผ่นดินและมาตุภูมิ ถึงแม้นหากดูรากศัพท์อย่างผิวเผิน จะมีความละม้ายคล้ายคลึงกัน ทว่าทั้งสองคำนั้นกลับมีความต่างกันอย่างลิบลับเลยทีเดียว เมื่อคำว่าแผ่นดินคือผืนดินหรือชาติ ถึงแม้นว่าการได้มาของการผนวกนั้นจะได้มาด้วยวิธีการใดก็ตาม ก็ย่อมหมายถึงชาติ ทว่ามาตุภูมินั้นคือแหล่งกำเนิดหรือสถาน ที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตนที่ไม่ได้หมายรวมถึงที่ใด

http://numismatics.org/collectionimages/19001949/1940/1940.160.826.rev.width350.jpg

ถึงแม้นว่าปาตานีจะยังคงห่างไกลกับทางออกที่น่าจะเป็นในภายภาคหน้า แต่วันนี้ปาตานีจะเป็นเช่นไรประชาชนหรือผู้เป็นเจ้าของมาตุภูมิจะเป็นผู้กำหนดให้กับสังคมของตน ขอเพียงแต่อย่าได้หลงระเริงระหว่างทางยิ่งนัก เผื่อความสูญเสียและความเสียสละของเหล่าวีรชนทั้งหลาย จักไม่สูญเปล่าในความทุ่มเทและมุมานะแห่งจิตวิญญาณ ที่ปรารถนาสังคมที่ปราศจากการกดขี่ ปราศจากการกลืนกลายของชาติพันธุ์ปาตานี

จะอย่างไรก็ตาม องค์กรที่เกิดขึ้นใหม่ในปาตานี ในทศวรรษหลังนี้ ในฐานะองค์กรเพื่อสังคมหรือภาคประชาสังคม ที่ประกาศตัวในฐานะกลุ่มคนที่อาสาขับเคลื่อนประเด็นสังคมทั้งระดับจุลภาคหรือมหภาค ต้องมีความกล้าที่จะส่งเสียงและพูดความจริงให้สังคมรับรู้ มิเช่นนั้นปัญหาปาตานีจะยิ่งแก้มิตก หากองค์กรภาคประชาสังคมเองกลับเป็นฝ่ายที่คอยถ่วงดุลในการที่จะร่วมกันหาทางออกด้วยการฟังเสียงประชาชน หยั่งรากถึงปฐมภูมิของปัญหา มิใช่เป็นองค์กรที่คอยเลียแข้งเลียขาผู้มีอำนาจ เห็นพ้องทุกอย่างกับยุทธศาสตร์แห่งรัฐ ยิ่งเป็นการทำหน้าที่ชี้โพรงให้กระรอก โดยลืมที่จะมองลึกลงไปยังแก่นสารของปัญหาที่แท้จริงที่ว่า แท้แล้วสังคมปาตานีปรารถนาสิ่งใด?