Skip to main content

   …. สันติภาพของฉันอยู่ตรงไหน? เสรีภาพของฉันมันมีไหม? “ขอร้อง” ได้โปรดหันมาฟังเสียงชนรากหญ้าอย่างฉันบ้าง! ฉันเป็น“เหยื่อ” ฉันมีสิทธิอะไร ? หรือวันนี้ฉันเป็นได้เพียงแค่ ต้นหญ้า ที่มีใครต่อใครเข้ามาเหยียบย่ำไปวันๆ อยู่บนหลังของฉันได้ ฉันล้ม ฉันตาย ฉันเจ็บป่วย มันก็มีค่าเท่ากันใช่หรือไม่! ชีวิตชนชั้นรากหญ้าอย่างพวกฉันที่นี่มันไร้คุณค่าถึงขนาดนั้นเลยหรือ??  ไหน! ที่ใครๆก็มักจะพูดว่ารัฐมีหน้าที่ต้องปกป้องสิทธิมนุษยชนตามกฎหมาย รัฐต้องดูแลสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าชนชั้นนั้นจะอยู่ภายใต้การปกครอง หรืออยู่ในสถานะผู้ที่ถูกปกครองก็ตาม

แล้วทำไม? ชนชั้นรากหญ้าอย่างพวกฉันถึงยังเป็น “เหยื่อ” ของความรุนแรง พวกฉันยังต้องมาลิ้มรสของความสูญเสีย ความเจ็บปวด ยังต้องมาเฝ้ารอความตายอยู่เบื้องหน้าได้ทุกวัน ฉันไทยพุทธหรือฉันมลายู ก็ยังต้องตกเป็นเป้าที่ไร้ค่า ต้องมาตายตามป่าเขาและท้องถนนอีกนานไหม?  “ฆ่า” ฉันแล้วได้อะไร? “ฆ่า” ฉันแล้วได้ความสะใจใช่หรือไม่? หากสนองความสะใจเพียงแค่ 2 วัน กับ ความเสียใจไปตลอดกาลคุณจะเลือกอะไร? หากวันนี้ชนชั้นรากหญ้าอย่างพวกฉันไร้สิทธิด้วยฝีมือใคร? พอเถอะ! ฉันขอร้อง….  อย่ามาสร้างภาพโชว์ความเมตตาให้ชนชั้นรากหญ้าอย่างฉันได้เห็นอีก

ที่นี่มันบ้านฉันนะ! รากหญ้าอย่างพวกฉันมีความชอบธรรมพอไหมที่จะป้องกันตนเองได้บ้าง กับสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ดินแดนแห่งนี้ นี่!มัน 11 ปีแล้วนะที่มีใครต่อใครต่างก็ชวนกันมาร้องรำทำเพลงเล่นเต้นตามจังหวะดนตรีที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความสูญเสีย ความเจ็บปวด โศกเศร้า เคียดแค้น ท่ามกลางเสียงรำไห้เต็มไปด้วยกลิ่นไอที่ไหลไปตามสายเลือดของคนที่นี่มานานนับทศวรรษ สิทธิของพวกฉันมันหายไปไหน? หรือคำว่า “สิทธิขั้นพื้นฐาน” มันเป็นแค่คำนิยามที่สวยหรู ที่ผู้ปกครองเปิดตลาดมาขายความฝันที่บ้านฉันเพียงแค่นั้นหรือ? ชนรากหญ้าอย่างพวกฉันจำเป็นด้วยไหมที่ต้องหวังทนฟังคำโฆษณาชวนเชื่อที่ต่อแหลไปวันๆ

ในเมื่อ …

“ฉันได้ยิน ฉันได้ยิน และฉันก็ได้ยิน”

                             “ฉันได้เห็นคนตาย แทบทุกวัน”

                                       “ฉันได้สัมผัสกับเหยื่อ ที่ถูกจับ”

                                                “ฉันได้ยินเขายึดทรัพย์ และริบสิน”

                                                “ฉันได้ยินเด็กๆร้อง เมื่อถูกตรวจ”

                                      “ฉันได้ยินเด็กๆร้อง เรียกหาพ่อ”

                             “ฉันได้เห็นพ่อแม่รอ หวังลูกกลับ”

          “ฉันได้เห็นญาติรับศพ  ไร้วิญญาณ”

                   “ฉันได้เห็นน้ำตาคน  อยู่ข้างๆ ”

                             “เมื่อฉันถามต่างหันหลัง  พร้อมวิ่งหนี ”

                                      “11 ปีฉันแทบบ้า  และโดดเดี่ยว ”

                                                “ไร้งานการต้องทนทุกข์  แสนสาหัส”

                                                “ไร้ซึ่งข้าวไร้ซึ่งแกง  และแรงกาย”

                                      “จะทำอย่างไรเมื่อคำว่าสิทธิ   ไม่มีจริง”

                             “ฉันต้องดิ้นตามหามัน  อีกนานไหม”

                   “แม้รับรองความปลอดภัย  ก็ไม่มี”

          “พื้นที่นี้มีแต่ฆ่า แล้วก็ ”ฆ่า” ที่ฉันเจอ ”

ตราบใดการละเมิดสิทธิทางศาสนายังคงอยู่ การละเมิดสิทธิทางร่างกายยังมีให้เห็น การครอบงำทางความคิด รวมทั้งการยึดทรัพย์อายัดทรัพย์ ริบทรัพย์ การครอบครอง การละเมิดสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนที่นี่ยังมีให้เห็นอยู่ไปวันๆ … ทราบนั้นสันติภาพ หรือ สันติสุข สำหรับชนรากหญ้าอย่างพวกฉัน ก็ยังเห็นความตอแหลไปวันๆ เช่นเดียวกัน

 

โดย

….. Kambing Putih (แพะขาว)   2/1/2016