Skip to main content

สิ่งที่เกิดขึ้นในอิรักและซีเรีย ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าเป็นฝีมือไอเอส แต่เราไม่สามารถระบุได้ว่าใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังไอเอส แม้เราจะรู้อยู่แก่ใจ แต่หลักฐานที่ไม่แน่นหนาพอ หรือแน่นหนาแต่ถ้าอำนาจไม่มากพอก็ทำอะไรเขาไม่ได้

.

.

ยุทธศาสตร์หนึ่งที่สัมฤทธิ์ผลในศึกสงครามคือการโจมตี ผู้ที่ไม่มีอาวุธ หรือโจมตีผู้ที่อ่อนแอกว่า เพราะต่อให้มนุษย์นั้นจะใจแข็งขนาดใหนแต่ถ้าได้เห็นผู้ซึ่งเป็นที่รักโดนทำร้าย ก็ไม่อาจนิ่งอยู่เฉยได้ เสปนก็เคยใช้กลยุทธนี้ในการพิชิตดินแดนอเมริกา พิชิตดินแดนของชนเผ่ามายา อาณาจักรอินคา และแอซเท็ค มาแล้วหรือทีโคลัมบัสเรียกรวมๆว่า อินเดียนแดง (ถ้าท่านไม่เชื่อ ลองต่อสายโทร.ไปถาม โคลัมบัส กับเคอร์เตส ดู โทรฟรี 24 ชม.)

.

.

นอกจากการโจมตีเป้าหมายที่อ่อนแอโดยอาวุธแล้ว การใช้เชื้อโรค หรือโรคระบาด ก็เป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่ได้ผลเช่นกัน เพราะโรคระบาดสามารถคร่าชีวิตผู้คนโดยที่ไม่ต้องเสียแรงกวาดล้างเผ่าพันธุ์ใด เผ่าพันธ์หนึ่งให้เสียเวลา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเชื้อโรค และก็ใช้เวลาไม่นานด้วย วิธีนี้มีมาตั้งแต่สมัยโรมันโบราณเสียอีก แต่ปัจจุบันเขาคงไม่เอาศพผู้ติดเชื้อมาปล่อยแม่น้ำเหมือนโรมันสมัยก่อนแล้ว

.

.

เดี่ยวนี้เทคโนโลยีก้าวล้ำกว่ามาก เพียงแค่เพาะเลี้ยงเชื้อโรคร้ายสักสองสามสายพันธุ์ และไปทดลองใช้กับประเทศโลกที่สาม เลือกประเทศที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติมากๆ แต่คุณภาพชีวิตประชากรนั้นต่ำกว่ามาตรฐานสากล

.

.

การทำการทดลองเชื้อโดยใช้มนุษย์ เหมือนจะเลวร้ายไร้ศีลธรรม แต่ใครกันเล่าที่สามารถกล่าวหา หรือหาหลักฐานมามัดตัวได้ เว้นแต่ประเทศที่ประสบนั้นมีเทคโนโลยีทางการแพทย์และวิทยาศาตร์ที่เทียบเคียงกันได้ หรือถ้าประเทศอื่นมาให้ความช่วยเหลือ ก็จะถูกตราหน้าว่า ละเมิดอธิไตย ซึ่งแรงพอๆกับโดนกล่าวหาว่าเป็น อาชญากร

.

.

จากนั้นอาจจะส่งทีมแพทย์จากประเทศตนมาให้การรักษา แต่เบื้องหลังการรักษานั้นคือการไปสังเกตการณ์ ว่าปฏิกิริยาแต่ละระยะของเชื้อโรคที่ฟักตัวในร่างกายมนุษย์นั้นเป็นอย่างไร แล้วเก็บข้อมูลกลับไปทำวิจัยต่อ แม้ตัวหมอผู้นั้นจะได้รับเชื้อโรคร้ายมาที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดต่อประเทศตนเอง ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลมากนัก เพราะทางประเทศดังกล่าว มีวัคซีน และแอนติบอดี้ ที่เป็นตัวรักษาเชื้อโรคดังกล่าวให้ปลอดภัยแล้ว พูดอีกอย่างคือ ถ้าผลิตยาพิษขึ้นได้ ก็ต้องผลิตยาแก้พิษได้ด้วย

.

.

แล้วประเทศที่น่าสงสารประเทศที่สามนั้น จะรอดชีวิตจากการแพร่ระบาดของโรคร้ายได้อย่างไร ก็มีอยู่ทางเดียวนั้นคือ ต้องสั่งวัคซีนจากประเทศที่ "สามารถผลิตวัคซีน ได้สำเร็จ (ตั้งแต่ต้นแล้ว)" มารักษาคนในประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชากรให้หลุดพ้นจากการเจ็บป่วย เพื่อให้ประเทศตัวเองได้หลุดพ้นจากการรังเกียจของประเทศอื่นๆที่มองว่า "ยี้ อย่าไปเลยบ้านเมืองนั่น มันน่ากลัว มันมีแต่เชื้อโรค"

.

.

ทีนี้ก็เข้าข่ายวัตถุประสงค์ของประเทศผู้ผลิตวัคซีนแล้วละ ไปทดลองบ้านเขา ใช้คนของเขา แล้วขายยาให้เขา คนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดคือประเทศที่ขายยาให้ คนที่สูญเสียมากที่สุดคือประเทศที่ต้องซื้อยา (วัคซีน) (บางครั้งก็ต้องยอมแลกศักดิ์ศรีของประเทศตนเอง เพื่อประชาชน)

.

.

ลองนึกๆดู ถ้าโรคที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ แน่นอนว่าเชื้อโรคนั้นจะต้องสามารถปรับตัวตามสภาพแวดล้อมและเอาตัวรอดได้ และโรคนั้นก็จะปรากฎมาเรื่อยๆตามกาลเวลา เพราะถ้าคิดตามทฤษฎีการคัดสรรค์ทางธรรมชาติของดาร์วินแล้ว สิ่งมีชีวิตที่แข็งแรงก็จะมีการปรับตัว สามารถมีชีวิตรอด ส่วนสายพันธ์ที่อ่อนแอก็จะตายไป บางทีก็มีการกลายพันธ์ุหากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน อย่างเช่น ผลของระเบิดนิวเคลียร์ที่ส่งผลรุนแรงต่อสารพันธุกรรม (DNA) ส่วนสิ่งมีชีวิตที่รอดชีวิตมา ส่งต่อยีนที่เด่น (ที่แข็งเรง)ไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน ทำให้เชื้อโรคเหล่านั้น สามารถดำรงชีพใน generation ต่อไปได้

.

.

เชื้อโรคแบบนี้ก็ได้แก่ ไข้หวัด ภูมิแพ้ ไข้เลือดออก มาลาเรีย เอดส์ วัณโรค อิสุกอิใส ท้องร่วงฉับพลัน ฯลฯ แต่น่าสงสัยไหม ว่าโรคร้ายบางโรค กลับเกิดขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่ง โดยที่ไม่เคยปรากฎในประวัติศาสตร์มาก่อน หรือเกิดขึ้นมาเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แล้วก็ถูกกำจัดหายไป อย่างเช่นโรค ทซาร์ แอ็นแทร็กซ์ เป็นต้น

.

.

ปัจจุบันมีอีกโรคร้ายหนึ่งที่กำลังระบาด กำลังคร่าชีวิตผู้ตนจำนวนมาก และยังไม่ได้รับการควบคุมที่ดีพอ (วัคซีนนั้นมีแล้ว) เขาผู้นั้นมีนามว่า อีโบล่า ทีนี้อยากให้ลองคิดเล่นๆ ว่าอีโบล่าเชื้อโรคน้องใหม่ ไฟแรง (ในอดีตเคยเกิดขึ้นแล้ว และก็หายไป แล้วก็กลับมาใหม่) จะเข้าข่ายใด

.

.

จะเป็นโรคที่พระเจ้าประทานมา เพื่อทดสอบมวลมนุษย์ชาติ (โรคที่มีแต่เดิมตามธรรมชาติจาการปรับตัวเอาตัวรอดของเชื้อ ผ่านการวิวัฒการภายใน) หรือโรคที่มนุษย์ประทานแก่มวลมนุษย์ด้วยกัน เพื่อประโยชน์ของมนุษย์เพียงบางกลุ่มเอง (เชื้อโรคที่มีการดัดแปลงทางพันธุกรรม จากการพัฒนาสายพันธ์ุ)

.

.

...อ่านถึงขั้นนี้แล้ว จะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะตำหนิแนะนำอย่างไร ก็แล้วแต่วิจารณญานของแต่ละคน เพราะเราเองก็ไม่เชื่อ เพราะมนุษย์นั้นลึกๆแล้วเป็นคนดีทุกคน แต่ต้องไม่ลืมด้วยเหมือนกันว่า มนุษย์นั้นลึกๆเช่นกันก็มีความมืดชั่วร้าย ความเห็นแก่ตัว

 

...มิฉะนั้น ทุกศาสนาจะมีศาสดาไว้เพื่ออะไร... 

"โอ้ นะบีเอ๋ย! แท้จริง เราได้ส่งเจ้ามาเพื่อให้เป็นพยาน และผู้แจ้งข่าวดี และผู้ตักเตือน" (อัล-อะฮ์ซาบ : 45)

 

ป.ล. เนื้อหาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร กับวง EBOLA เลยยยยย...