Skip to main content
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บิน ชาฟิอีย์  (อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้       

 

"มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ (สุบหานะฮูวะตะอาลา) ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลกขอความจำเริญและสันติจงประสบแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน"

หลังจากนั้นวันที่ 20 ก.ย. 2557 ที่ผ่านมา เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า ในการจัดเสวนาวิชาการเรื่องความสุขและความปรองดองภายใต้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 จัดโดย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีผู้ร่วมเสวนา นายชำนาญ จันทร์เรือง อาจารย์พิเศษ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายเอกชัย ไชยนุวัติ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม นายกฤษณ์พัชร โสมณวัตร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 25 กันยายน นั้น ล่าสุดได้รับการประสานจากทางทหาร ให้ยกเลิกการจัดกิจกรรมดังกล่าวแล้วเช่นกัน

21 กันยายน 2557 นักวิชาการ 60 ท่านจากมหาวิทยาลัย 16 แห่งทั่วประเทศ (รวมทั้งชายแดนใต้) ได้ออกจดหมายเปิดผนึกประณามการที่ทหารและตำรวจบังคับให้นักวิชาการและนักศึกษายุติงานเสวนาวิชาการในหัวข้อ "ห้องเรียนประชาธิปไตย: บทที่ 2 การล่มสลายของเผด็จการในต่างประเทศ" ซึ่งจัดขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พร้อมทั้งควบคุมตัวนักศึกษาและวิทยากรไปสถานีตำรวจ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา  นักวิชาการกล่าวในจดหมายว่า การกระทำของทหารและตำรวจครั้งนี้เป็นการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการอย่างชัดเจน และยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง ผู้ลงนามในจดหมายยังเรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หยุดคุกคามนักวิชาการและนักศึกษาโดยทันทีด้วย  นักวิชาการที่ร่วมลงชื่อประกอบด้วยอาจารย์ประจำจาก 31 คณะ 16 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

ในขณะกลุ่มต้าน การแสดงความคิดเห็นเรื่องความอิสระทางวิชาการหลายท่านไม่ว่าพระพุทธะอิสระ เช่นวันที่ 23 ก.ย. พระพุทธะอิสระ อดีตแกนนำ กปปส. ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่มีกลุ่มนักวิชาการ  ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาล คสช.หยุดคุกคามเสรีภาพทางวิชาการกล่าวหาว่า นักวิชาการเหล่านี้คือพวกไหน คนของใคร และกล่าวว่า ที่เขียนมาเสียยืดยาวนี้ เหตุเพราะกังวลว่า ขืนรัฐบาล คสช. ยอมปล่อยให้กลุ่มนี้แสดงพลัง กลุ่มนั้นแสดงพลัง เดี๋ยวนักการเมืองฉบับทายาททรราชได้กลับมาแน่ (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1411454892)

อีกท่านคือ เปลว สีเงินได้เขียนบทความเสรีภาพของนักวิชาการหางว่าว(http://www.bangkokbiznews.com)

ในขณะฝั่งรัฐบาลรัฐประหารออกมาตอบโต้ ไม่ว่า นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี เช่นนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า“เรื่องนี้ได้มีการเชิญมาพูดหลายครั้งแล้ว และได้ขอร้องแล้วว่า อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย เพราะบ้านเมืองกำลังเดินอยู่ วันนี้เรากำลังทำ 3 เรื่อง คือ บริหารประเทศ ปฏิรูป และการปรองดอง เพราะฉะนั้นนำเรื่องไปพูดพอขยายก็จะเป็นเรื่อง เมื่อคนที่หนึ่งพูดได้ คนที่สองสามสี่ ก็จะตามมา ตนก็ไม่ต้องทำงานกันพอดี แล้วจะเข้ามาทำไม  "ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงต้องเข้าใจผมด้วย ที่ผ่านมาได้ขอกันมานานแล้ว เราไม่ได้จับกุมตัว เพียงแต่เชิญตัวมา ตอนนี้ก็ได้ปล่อยตัวกลับไปหมดแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่เปิดให้มีการพูดหรือแสดงความเห็นด้านการเมืองใช่หรือไม่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คำสั่งคสช.ทุกอย่างยังมีเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และไม่มีอะไรยกเลิกสักอย่างเมื่อถามต่อว่าทำไมไม่เปิดช่องให้บางกลุ่มได้แสดงความคิดเห็นพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นี่ก็เปิดอยู่ไม่เคยปิด เปิดให้สื่อถามอยู่ตลอด ซึ่งต้องดูว่าเขาพูดเรื่องอะไร เช่นนี่เรื่องประชาธิปไตย ก็อย่าไปขยายความ(http://www.prachatai.com/journal/2014/09/55636)

สำหรับทัศนะผู้เขียนการเมืองช่วงปฏิรูป อิสรภาพทางวิชาการและพื้นที่ทางการเมืองที่ปลอดภัยของผู้เห็นต่าง หากอยู่ในห้องหรือแสดงการต่อต้านเชิงสัญลักษณ์หากรัฐกล้าอนุญาต จะเป็นผลดีต่อรัฐมากกว่า ทั้งในระดับประเทศหรือต่างประเทศที่พยายามบอกว่า จะนำประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มาให้เพื่อคืนสันติภาพและสันติสุขให้คนไทยและขอนำแถลงการณ์จากการเปิดพื้นที่ทางการเมืองชายแดนใต้(ผู้เขียนได้ร่วมฟังเสวนา) ในงานครบรอบ 1 ปี ของการจัดเวทีสาธารณะ Bicara Patani ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี วันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมาจัดโดย สำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา มูลนิธิศักยภาพชุมชน และเครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ

“สันติภาพ คือคำสากลที่เป็นที่รับรู้และยอมรับกันทั่วโลก เพราะสังคมโลกโดยรวมต่างได้รับบทเรียนอันโหดร้ายและเศร้าโศกจากภาวการณ์ที่ไร้ซึ่งสันติภาพ นั่นก็คือภาวการณ์ของสงคราม จะเป็นสงครามในระบบหรือนอกระบบสงคราม สมมาตรหรือสงครามอสมมาตร สงครามก่อการร้ายหรือสงครามจรยุทธ์ล้วนแต่มาจากความขัดแย้งในเชิงอุดมการณ์ทางการเมืองทั้งสิ้น เฉกเช่นเดียวกันกับพิ้นที่ชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยหรือปาตานี

ตามมาตรฐานสากลของเจตนารมณ์การจัดตั้งองค์การสหประชาชาติ ภารกิจหลักสำคัญข้อหนึ่งก็เพื่อรักษาและสรรค์สร้างสันติภาพของทุกชนชาติทั่วโลก สอดคล้องตามหลักการประชาธิปไตยสากลซึ่งเคารพในการตัดสินใจของประชาชนในฐานะเจ้าของชะตากรรมอย่างแท้จริง

เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันสันติภาพโลกทางสำนักปาตานีรายาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา ร่วมกับมูลนิธิศักยภาพชุมชนและเครือข่ายประชาสังคมเพื่อสันติภาพ จึงขอถือโอกาสนี้แสดงจุดยืนเพื่อสันติภาพสู่สันติสุขปาตานีอย่างแท้จริงและยั่งยืนดังนี้

"ในกระบวนการสร้างสันติภาพและสันติสุขอย่างแท้จริงและยั่งยืนทุกรูปแบบนั้น จำเป็นที่จะต้องมีพื้นที่ทางการเมืองและพื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนตามมาตรฐานกฎหมายสากลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จึงจะถือได้ว่าสันติภาพหรือสันติสุขที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยการแยกขาดออกจากเจตจำนงของประชาชนในฐานะเจ้าของชะตากรรมและมีความชอบธรรม"