Skip to main content

 ชาวบ้านบันนังสตา ตกอยู่ในความหวาดกลัว พื้นที่แห่งความรุนแรง ที่มีเหตุการณ์บ่อย นักสิทธิชี้สื่อต้องไม่เพิ่มเงื่อนไขของความขัดแย้ง  ภัยจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนที่ไม่เข้าใจบริบทของความขัดแย้งตลอดระยะเวลา 10 ปี

 ซาฮารี  เจ๊ะหลง 

ผู้ปฏิบัติงาน สำนักสื่อ wartani

 

ความรุนแรงในบันนังกูแว อ.บันนังสตา มีมาอย่างต่อเนื่อง

           เหตุการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ อ.บันนังสตา  ตั้งแต่ปลายปี 2556 คือ เหตุกราดยิงนายซาการียา เฮงดาดา สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบังนังสตา อดีตผู้ใหญ่บ้านบันนังกูแว  เหตุกราดยิงและเผาทำลายบ้านเรือนชาวบ้าน และบ้านนักกิจกรรมเพื่อสังคม  ซึ่งพ่อกับแม่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงเสียชีวิตทั้งสองคน  เหตุลอบฆ่าผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรวม 3 ศพ โดยมีการ “ตัดคอ” ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่เป็นผู้หญิงด้วย เหตุทิ้ง “ใบปลิว” ของแนวร่วมว่าเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐที่ปล่อยให้ “อาสาสมัคร” กลุ่มหนึ่งปฏิบัติการฆ่าประชาชน จนกระทั่ง เหตุการณ์ล่าสุด กราดยิง ครอบครัว อาสาสมัครคนดังกล่าว เสียชีวิต 3 ศพ ซึ่งในนั้นมีเด็กผู้หญิง อายุ 2 ขวบ รวมอยู่ด้วย  เรื่องราวดังกล่าวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ หมู่บ้านบันนังกูแว และเขตอำเภอบันนังสตาทั้งอำเภอต่างได้รับอิทธิพลความกลัวแผ่ปกคลุมทั่วอาณาเขต

         ปัญหาของความขัดแย้ง ที่ทำให้เกิดความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตและทรัพย์สิน ในเขตบันนังสตา ยิ่งสะสมจนเกิดสภาวะที่เหมือนน้ำในเขื่อนจะทะลักพังทลาย เพราะหลังจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2557 ที่บ้านบันนังกูแว ก็มีการนำเสนอข่าวของสื่อว่า เจ้าหน้าที่ประกาศออกหมายจับ ลูกชายของตนคดียิงครอบครัว อส.อับดุลฮากิม ดาราเซะ เสียชีวิตสามศพ  สื่อได้นำเสนอข่าวการออกประกาศหมายจับก่อนที่เจ้าหน้าที่มาแจ้งครอบครัว ซึ่งทำให้ชาวบ้านกลัวว่าเรื่องลักษณะนี้จะเป็นการชี้เป้าเพื่อการขยายการล้างแค้น. 

 

การนำเสนอข่าวของสื่อ ต่อ กรณี ยิงครอบครัว อส.อับดุลฮากิม ดาราเซะ เสียชีวิตสามศพ

             พล.ต.ต.ทรงเกียรติ วาทะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้เปิดเผย ถึงคดียิงชาวบ้าน 3 รายที่ บันนังสตา ว่า ได้มีการขออนุมัติศาล จ.ยะลา ออกหมายจับผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุในครั้งนี้ จำนวน 2 ราย โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นครูสอนโรงเรียนตาดีกา 1 ราย ส่วนผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิง เป็นชาวบ้านในพื้นที่บ้านเงาะกาโป  “ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ 2 ผู้ต้องสงสัยไปแล้ว อยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัว แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะไหวตัวหลบหนี” ผู้การฯยะลา ได้กล่าวไว้ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557  ผ่าน สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ สทท.ยะลา

ในขณะที่ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ได้พาดหัวข่าวในวันเดียวกันว่า  “ศาลยะลาออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหายิงโหด 3 ศพ ที่บันนังสตา ข้อหาเจตนาฆ่า” โดยในเนื้อหาระบุชัดเจนว่า “ 2 คนร้ายที่เชื่อว่าจะเป็นผู้ที่ลงมือตามพยานหลักฐาน คือ นายซามีม ซะแม อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ 3 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา หมายจับที่ จส.104/2557 ลงวันที่ 22 เมษายน 2557 และนายซับรี เจะแว อยู่บ้านเลขที่ 68/1 หมู่ 4 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา หมายจับที่ จส.105/2557 ลงวันที่ 22 เมษายน 2557 “ 

 รายงานข่าวจาก ไอเอ็นเอ็น ก็พาดหัว “ขอออกหมายจับ2ต้องสงสัยฆ่า3ศพยะลาแล้ว” และลง เนื้อหา ชื่อผู้ถูกกล่าวหา พร้อมรูปภาพชัดเจน  หนังสือพิมพ์ดัง เช่น เดลินิวส์ออนไลน์ ก็ออกข่าว ชื่อผู้ถูกกล่าวหา พร้อมรูปภาพชัดเจน 

 

เสียงของครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ และความเห็นจากทนายความด้านสิทธิฯ

นายวาลี ซะแม พ่อของนายซามีม ซะแม ที่ถูกทางการออกหมายจับ  ได้ไปร้องเรียนและขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ทนายความมุสลิม จ.ยะลา เพราะไม่เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ “  รู้สึกแปลก ใจ เรื่องหมายจับรู้มาจากการนำเสนอข่าวของสื่อ แต่ที่รู้สึกกลัวคือ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาหา ทั้งๆที่สื่อก็ออกข่าวครึกโครม กลัวว่า จะมีการชี้เป้าให้คนมาล้างแค้น เพราะเป็นคดีที่สะเทือนขวัญ ส่วนลูกชาย เขายืนยันว่าวันเกิดเหตุอยู่ช่วยงานการกุศล ในโรงเรียน ชาวบ้านในงานหลายคนช่วยเป็นพยานได้ ”  นายวาลีกล่าวกับผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 

นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมประจำจังหวัดยะลา  ได้ให้ความเห็นต่อกรณีการนำเสนอของสื่อ ว่า “ สื่อมวลชน ต้องทบทวนเวลานำเสนอข่าวของผู้ถูกกล่าวหา ในเรื่องคดีความมั่นคง การเปิดเผย ชื่อ ภาพ ที่ชัดเจน โดยปราศจากหลักฐานที่มั่นคงเพียงพอ 

           ในทัศนะของคนที่ทำงานด้านสิทธิฯในพื้นที่ความขัดแย้งรุนแรง ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา สื่อที่ออกข่าวลักษณะนี้ ผมถือว่าเป็นการเติมเชื้อไฟ เติมเชื้อความขัดแย้ง ผู้ได้รับผลกระทบเบื้องต้นสุดเลย คือครอบครัวของคนที่ภาพปรากฏเจ้าตัวแน่นอน ได้รับผลกระทบแน่ กลัวจะโดนถูกลอบทำร้ายเพื่อเป็นการแก้แค้นจากครอบครัวของผู้ที่ถูกยิงถูกฆ่ามา  ครอบครัวก็เช่นเดียวกัน ก็กลัวคนที่ตัวเองรักจะถูกทำร้าย นี่คือการคุกคามรูปแบบหนึ่ง ที่คนทำงานสื่อในพื้นที่ความขัดแย้งจะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆในการนำเสนอข่าว “  นายอดิลัน กล่าว

 

สองเยาวชนที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้ต้องสงสัย

สำหรับข้อมูลของ ผู้ถูกกล่าวหา ว่าเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุในเหตุการณ์ยิงครอบครัว อส.อับดุลฮากิม ดาราเซะ เสียชีวิตสามศพ  คือ 1.นายซามีม ซะแม อายุ 24 ปี  ตามหมายจับที่ จส.104/2557 ลงวันที่ 23 เมษายน 2557 เป็นนักกิจกรรมในพื้นที่ มีตำแหน่ง เป็นประธานกลุ่มรถคลาสสิก บันนังสตา  เคยร่วมงานรณรงค์กับองค์กรประชาสังคมมาโดยตลอด อาทิ Classic Rally Say No Emergency Degree ,Trailer"Classic Rally Say No'''   http://www.youtube.com/watch?v=G-SM6OyPFcs   , "Classic Rally Say No Emergency Decree"   http://www.youtube.com/watch?v=9dStCMfe7gs 

2. นายซับรี เจะแว อายุ 22 ปี  ตามหมายจับที่ จส.105/2557 ลงวันที่ 23 เมษายน 2557

งานอาสา : เป็นครูสอนตาดีกาบันนังกูแวโรงเรียนตาดีกานูรุลฮีดายะฮฺ บ้านบันนังกูแว อำบันนังสตา จังหวัดยะลา

งานรับจ้าง : เป็นเจ้าหน้าที่ภารโรง โรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

เป็นเพื่อนกับบาบอลีหรือนายมะยาหะรี อาลี  หรือ บาบอลี เจะฆูตาดีกาบันนังกูแว ที่ถูกลอบยิง...!!!   

       " เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพราน (ร้อย ทพ.11) มาหาเขาที่บ้าน เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเขา  วันที่ 20 เมษายน 2557 เกิดเหตุการณ์ และวันที่ 23 เมษายน 2557 ก็โดนหมายจับ" พ่อของนายซับรี กล่าว

 

ลิ้งค์ข่าวที่อ้างอิง

http://thainews.prd.go.th/centerweb/News/NewsDetail?NT01_NewsID=TNSOC570...

 http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9570000045196

http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=532579

http://www.dailynews.co.th/Content/regional/232388/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0...