Skip to main content

 

ที่ 004 / /2557
 
แถลงการณ์
ประณามการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรีในพื้นที่ขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
จากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามซุ่มยิงครอบครัว นายเจะมุ มะมัน อย่างโหดเหี้ยมทารุณในพื้นที่ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อคืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2557เวลาประมาณ 21.00 น. เป็นเหตุให้นายเจะมุ และภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 4 เดือนได้รับบาดเจ็บ ส่วนบุตรชาย 3 คน อายุ 9 ปี 5 ปี และ 3 ปี เสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่งต่อประชาชนทั่วไป มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวนายเจะมุ มะมัน และขอประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชน และกระทำอันไร้มนุษยธรรม ขาดซึ่งเมตตาธรรมของผู้ใช้ความรุนแรงต่อเด็กซึ่งถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์รวมถึงสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ในครั้งนี้
 
นับแต่ปี 2547 มีเด็กและสตรีจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรง ทั้งที่เด็กเหล่านั้นมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งใดๆ การสังหารผู้บริสุทธิ์นอกจากจะส่งผลให้เกิดความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียแล้วยังก่อให้เกิดความหวาดกลัวอย่างมากต่อสังคม โดยเฉพาะเมื่อเกิดความรุนแรงต่อเด็ก ย่อมส่งผลต่อการพัฒนาทางร่างกายและจิตใจเด็กและเยาวชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ปัจจุบันมีเด็กหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ จากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก หรือความรุนแรงที่เกิดกับเด็กเองโดยตรง ส่งผลให้เด็กไม่สามารถมีพัฒนาเจริญเติบโตตามวัย เกิดความหวาดระแวงสังคม ไม่ไว้วางใจใคร เด็กหลายรายมีอาการฝันร้าย และประสาทหลอน” นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพกล่าว “ที่สำคัญปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรียังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากรัฐบาลยังไม่เคยมียุทธศาสตร์เฉพาะเพื่อคุ้มครองเด็ก และสตรีจากความรุนแรงในพื้นที่ขัดแย้งในจังหวัดชายแดนภาคใต้” นางอังคณา กล่าวเพิ่มเติม
เพื่อคุ้มครองสิทธิเด็กและสตรีในพื้นที่ขัดแย้งทางอาวุธในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลนิธิฯมีข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
 
1. ทุกฝ่ายซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งและเป็นผู้ใช้ความรุนแรงต้องเคารพสิทธิเด็ก สตรีและผู้บริสุทธิ์ ต้องยอมรับว่าสิทธิในชีวิตและร่างกายของผู้บริสุทธิ์เป็นสิทธิที่ไม่อาจมีผู้ใดพรากไปได้
 
2. รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงองค์กรศาสนาต้องสร้างมาตรการที่จำเป็นในการปกป้อง คุ้มครอง เด็ก เยาวชน และสตรีในพื้นที่ขัดแย้งทางอาวุธให้มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยจากความรุนแรงทุกรูปแบบ
 
3. รัฐต้องเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม และนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้ทุกฝ่ายไม่ควรด่วนสรุปจนกว่าการสืบสวนสอบสวนจะเสร็จสิ้น
 
4. ทุกภาคส่วนรวมถึงครอบครัว ชุมชนและสังคมควรมีความอดทน อดกลั้นและไม่ควรใช้ความรุนแรงเพื่อตอบโต้ความรุนแรง
 
5. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติควรให้ความสำคัญต่อการละเมิดสิทธิเด็ก และสตรี และถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการหาแนวทางเพื่อปกป้อง คุ้มครองสิทธิเด็กในพื้นที่ขัดแย้ง
 
มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพเชื่อมั่นว่าสันติภาพที่ยั่งยืนไม่อาจเกิดขึ้นได้หากผู้บริสุทธิ์โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน และสตรียังคงถูกคุกคาม และสังคมยังไร้ซึ่งความมั่นคงปลอดภัย