Skip to main content

              

       ในห้วงเวลาที่สังคมไทยกำลังเผชิญวิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองในระดับที่รุนแรงสั่งสมมาเกือบทศวรรษและยังไม่ปรากฏซึ่งแนวโน้มที่ขั้วขัดแย้งหลักทางการเมืองสามารถประนี ประนอมเพื่อบรรลุข้อตกลงในการคลี่คลายวิกฤติและการปฏิรูปการเมืองได้นั้น

 

ศาสนาเพื่อสันติภาพ สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย   ตระหนักถึงความเปราะบางของสถานการณ์ที่ส่อเค้าว่าจะเกิดความรุนแรงในระดับที่มีการนองเลือดจึงขอเสนอแนะแนวทางการคลี่คลายวิกฤติการเมือง ดังนี้
 
1.ศาสนาเพื่อสันติภาพ สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทยขอชื่นชมและสนับสนุนทุกแนวทางที่ปฏิบัติโดยขันติและสันติและขอคัดค้านทุกการกระทำที่เป็นการบิดเบือนความจริง โกหกใส่ร้าย ตลอดจนการปลุกปั่นยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังและการใช้ความรุนแรงระหว่างกลุ่มที่เห็นต่างในสังคม
 
2.ศาสนาเพื่อสันติภาพ สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย  ขอยืนยันว่าทุกศาสนามีจุดยืนเหมือนกันคือ หลีกเลี่ยงการกำหนดจุดยืนแบบสุดโต่ง ปฏิเสธความรุนแรง และขอเน้นย้ำหลักการที่ว่าผู้ที่เข้มแข็งที่แท้จริงนั้นคือผู้ที่สามารถจะระงับยับยั้งความโกรธที่มีต่อผู้อื่นจึงขอเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการยึดติดในอุดม การณ์หรือพรรคพวกของตนอย่างสุดโต่งอันจะนำไปสู่การไม่เปิดรับความคิดเห็นของฝ่ายอื่น รวมทั้งสร้างความแตกแยกเสียหายต่อประเทศชาติ
 
3.ศาสนาเพื่อสันติภาพ สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทยเห็นว่า การรัฐประหารคือ การแก้ไขปัญหาโดยการใช้กำลังซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ถึงความตีบตันทางปัญญาและความล้าหลังของสังคมความอ่อนแอของผู้นำและรังแต่จะซ้ำเติมความแตกแยกของชนในชาติ
 
4.ท่ามกลางความขัดแย้งที่ไม่ควรมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผูก ขาดความถูกต้องและยังมองไม่เห็นถึงแนวโน้มที่จะบรรลุซึ่งทางออกได้นั้น ศาสนาเพื่อสันติภาพสภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย  ขอเรียกร้องพี่น้องชาวไทยทุกคน โดยเฉพาะผู้หลักผู้ใหญ่ ให้ใช้สติและหัวใจที่บริสุทธิ์ในการกลับสู่หลักธรรมของแต่ละศาสนาเพื่อสร้างความสงบสันติอย่างยั่งยืนในสังคม
 
5.ศาสนาเพื่อสันติภาพสภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย  เห็นว่าขั้วขัดแย้งหลักทั้งสองฝ่ายเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหา จึงขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายคลี่คลายปัญหาโดยการถอยคนละก้าวและเสียสละจุดยืนบางประการของตน   เพื่อให้ประเทศสามารถหลุดพ้นจากภาวะชะงักงันและสามารถเดินไปข้างหน้าได้ ศาสนาเพื่อสันติภาพ  
 
6.สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทยขอสนับสนุนความพยายามของทุกกลุ่มที่มีเจตจำนงอันบริสุทธิ์ในการแก้ปัญหาเพื่อประเทศชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเสนอที่จะนำไปสู่การเปิดพื้นที่กลางในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี
 
7.ในฐานะที่ประเทศไทยมีศาสนาเป็นหนึ่งในสถาบันหลักที่สำคัญของชาติ สภาศาสนสัมพันธ์ขอเรียกร้องให้ผู้นำและสถาบันศาสนาทุกศาสนาในประเทศไทย ได้ออกมาทำหน้าที่เตือนสติและให้ปัญญาแก่สังคม เพื่อให้พลังคุณธรรมแห่งศาสนาสามารถเป็นแสงสว่างในการกอบกู้วิกฤติของประเทศ
 
8.ศาสนาเพื่อสันติภาพสภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย  เล็งเห็นว่ากระบวนการปฏิรูปประเทศเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับสังคมไทย   จึงขอเสนอให้กระบวนการดังกล่าวนำหลักคำสอนของศาสนามาเป็นสาระสำคัญในการปฏิรูป  เพื่อให้มีคุณธรรมเป็นพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
 
ผศ. ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา   พระราชวราจารย์
ประธานร่วมศาสนาเพื่อสันติภาพ 
สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย
                          12 มกราคม 2557   
................................................................................
 
ศาสนาเพื่อสันติภาพ  สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย (Religions for Peace, Interreligious Council of Thailand) เป็นองค์กรเครือข่ายของ Religions for Peace International, กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมบทบาทของทุกศาสนา ในการสร้างสันติภาพ มีสมาชิกจากตัวแทนของศาสนาต่างๆ ในประเทศไทย  โดยมี สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นสำนักเลขานุการ โทร 02 441 0813 –5โทรสาร 024410872-3เว็บไซต์  http://www.thailandrfpirc.org