Skip to main content

 เผยแพร่วันที่ 2 พฤษภาคม  2556

 
color:#222222">แถลงการณ์
ขอประนามผู้ใช้ความรุนแรงต่อกรณีการกราดยิงชาวไทยพุทธที่ปัตตานี
กำหนดแนวทางหยุดยิงเพื่อสร้างบรรยากาศแก้ปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี
 
color:#222222">เมื่อเวลาประมาณ 20.05 น. วันพุธที่ 1 พ.ค.2556 เกิดเหตุคนร้ายจำนวนอย่างน้อย 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามยิงใส่กลุ่มประชาชนบริเวณหน้าร้านขายของชำ เลขที่ 17/12 ถนนพูลสวัสดิ์ หมู่ 5  บ้านโคกม่วง ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 6 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 5 ปีถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย   การฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการกระทำที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งเป็นการสร้างบรรยากาศความหวาดกลัวต่อประชาชนในพื้นที่
 
color:#222222">มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ่งต่อครอบครัวของผู้สูญเสียในเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอประนามผู้ใช้ความรุนแรงต่อกรณีการกราดยิงชาวไทยพุทธที่ปัตตานี แม้ว่าจะยังไม่มีการสืบทราบสาเหตุหรือเหตุจูงใจในการฆ่าสังหารในครั้งนี้  เหตุดังกล่าวกระทำอย่างอุกอาจในพื้นที่ชุมชนไทยพุทธซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในพื้นที่โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและการจับกุม
 
color:#222222">ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2556 หลังจากเริ่มมีการพูดคุยสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นอย่างเป็นทางการและเปิดเผยนั้น  ทำให้ประชาชนในพื้นที่และทั้งประเทศเกิดความหวังว่าการพูดคุยจะนำพาไปสู่สันติสุขในอนาคตแต่ก็ต้องอาศัยความพยายามของทุกภาคส่วน แม้กระบวนการพูดคุยสันติภาพที่เริ่มต้นขึ้นในครั้งนี้จะยังไม่สามารถยุติเหตุรุนแรงได้ในทันทีเพราะอาจจะมีผู้ที่ยังไม่เข้าใจและแสดงปฎิกริยาต่อต้าน รวมทั้งอาจเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายกระแสการสนับสนุนการพูดคุ
 
color:#222222">อีกทั้งเหตุรุนแรงยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้การก่อเหตุแต่ละครั้งจะไม่มีการอ้างความรับผิดชอบของกลุ่มหรือฝ่ายใดก็ตามตลอดมาและในระหว่างการพูดคุยสันติภาพ หากแต่เมื่อมีการยอมรับว่ามีกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องอิสรภาพปัตตานีเกิดขึ้นจริงย่อมแสดงให้เห็นว่ามีต้องมีผู้รับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าวทั้งในทางกฎหมายในประเทศและในทางกฎหมายระหว่างประเทศ  การกระทำความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายทั้งในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ
 
color:#222222">อย่างไรก็ดีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนย่อมเป็นความรับผิดชอบของรัฐที่จะต้องจัดให้มีมาตราการที่รัดกุมและรอบคอบ พร้อมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ในการแจ้งเบาะแสและแจ้งเหตุความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งการติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยกระทำผิด  ที่ผ่านมารัฐยังคงไม่สามารถสร้างมาตรการป้องกันภัยที่มีประสิทธิภาพ มูลนิธิผสานวัฒนธรรมหวังว่าการก่อเหตุการณ์ความรุนแรงทำร้ายผู้บริสุทธิ์ในแต่ละครั้งจะไม่นำไปสู่การสิ้นหวังของฝ่ายรัฐบาลไทยและกลุ่มบีอาร์เอ็นที่จะยึดมั่นในการพูดคุย ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแสวงหาแนวทางเพื่อนำไปสู่การยุติการก่อเหตุร้ายรุนแรง กระบวนการสันติภาพยังต้องการได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่และทั้งประเทศเพื่อนำไปสู่ข้อตกลงสันติภาพต่อไปในอนาคตอันใกล้