Skip to main content

อิสลาม กับ ภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบัน

สรุปความ ปาฐกถาพิเศษ ของ Anis Mata อดีตเลขาธิการพรรค Partai Keadilan Sejehtera อินโดนีเซีย

ณ Depok เมื่อ 30 กรฏาคม 2560

 

สรุปความโดย Abu Khalifa

 

1 หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิออตโตมัน ตุรกี ในปี คศ. 1924 ระบบการเมืองในโลกอิสลามสามารถจำแนกออกเป็น 2 ลักษณะ/รูปแบบ คือ

รูปแบบที่ 1 รูปแบบที่ไม่ใช่รัฐ คือ เป็นขบวนการฟื้นฟูอิสลาม เช่น อิควาน ญามาอะฮอิสลามีย์ เป็นต้น

รูปแบบที่ 2 เกิดรัฐชาติ(nation state)

ซึ่งก่อนหน้านี้จะไม่เกิดสิ่งเหล่านี้ เพราะโลกมุสลิมถูกยึดครองเป็นอาณานิคมของประเทศตะวันตก

2. สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น จากผลพวงของสนธิสัญญา Sykes-Picot ในปี คศ 1916 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี คศ. 1914 มีผลให้ 3 จักพรรดิใหญ่ๆหายไป คือ พระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย พรรคการปฏิวัติบอลเชวิค และคอลีฟะห์อุสมานียะห์ และแล้ว ในปี คศ 1917 ได้มีสนธิสัญญา balfour ขึ้น สนธิสัญญาฉบับนี้ได้ก่อให้เกิดประเทศอิสราเอลขึ้นมา เพื่อคำ้จุนและดูแลชาวยิวที่ระเหเร่ร่อน

3. ตามแผนที่ในสนธิสัญญา Sykes-Pico นั้น ประเทศในตะวันออกลางส่วนใหญ่ถูกมอบให้เป็นอาณานิคมของอังกฤษ ยกเว้นซีเรียและเลบานอน สองประเทศนี้ถูกมอบให้เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส รวมทั้งประเทศในทวีปแอฟริกาก็ถูกมอบให้เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ด้วยเหตุนี้ คนแอฟริกาจึงนิยมใช้ภาษาฝรั่งเศสจนกระทั่งปัจจุบัน

4. หลังสงครามโลกครั้ง 2 แผนที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง สหรัฐอเมริกาได้เข้ามาเป็นประเทศมหาอำนาจแทนที่ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส มหาอำนาจใหม่เยอรมันภายใต้การนำของฮิตเลอร์ได้หมดอำนาจ แต่มีสหภาพโซเวียตรัสเซียเข้ามาแทนที่ จึงเกิด 2 ขั้วมหาอำนาจอำนาจใหม่ ที่ครองโลก คือ สหรัฐอเมริกา กับ สหภาพโซเวียต

5. ประวัติศาสตร์ของประเทศต่างๆในยุโรปนั้นล้วนเต็มไปด้วยการทำสงคราม จนเมื่อศตวรรษที่ 17 จึงเกิดสนธิสัญญาสันติภาพ เกิดประเทศต่างๆขึ้นมา แต่เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้จัดระเบียบโลกใหม่อีกครั้ง โดยสหรัฐอเมริกาได้ใช้องค์การสหประชาชาติ เป็นองค์กรร่มทางการเมือง ใช้ IMF และ World Bank(ธนาคารโลก) เป็นองค์กรร่มทางเศรษฐกิจ สหรัฐอเมริกาใช้เครื่องมือใหม่ในการยึดครองโลก

6. ระเบียบโลกใหม่ถูกแบ่งขั้ว เพราะได้เกิด 2 อภิมหาอำนาจ แม้ในปี คศ. 1945 พวกเขาตกลงกันจัดระเบียบโลกใหม่ แต่ในปี คศ. 1946 พวกเขาได้เข้าสู่สงครามเย็น ในยุคสงครามเย็น เกิดการสร้างบุคคลากรและภาคีเครือข่ายอย่างขนานใหญ่ ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต เป็นยุคของสงครามตัวแทน สองอภิมหาอำนาจเขาปะทะกัน แต่ไม่ได้ปะทะกันในประเทศของตัวเอง แต่ปะทะกันในประเทศอื่น ประเทศในลาตินอเมริกาเกือบทั้งภูมิภาคตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคอมมิวนิสต์ เช่นเดียวกันกับตะวันออกกลาง เช่น ลิเบีย ซีเรีย อีรัก รวมทั้งประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนาม ลาว กัมพูชา

7. หลังสงครามเวียดนาม สหรัฐอเมริกาถูกถือว่า พ่ายแพ้ทางการเมืองแก่สหภาพโซเวียต แต่ทว่า สหภาพโซเวียตเองก็มีปัญหา ปรากฏว่า ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลที่สหภาพโซเวียตยึดครองอยู่ มิได้ถูกนำไปใช้ในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของระบอบคอมมิวนิสต์ กลไกทางเศรษฐกิจของระบอบคอมมิวนิสต์ไม่ทำงาน ประชากรทุกพื้นที่มีฐานะยากจน ทุกอย่างจะรวมศูนย์ที่ส่วนกลาง แต่ปรากฏว่า กลไกลนี้ไม่ทำงาน

8. ในยุคของประธานาธิบดีรุสเวลท์ สหรัฐอเมริกาเห็นว่า ความขัดแย้งกับสหภาพโซเวียตเป็นความขัดแย้งเรื่องอุดมการณ์ ใครที่สามารถแสดงศักยภาพหรือผลสัมฤทธิ์ได้ดีกว่า เขาจะเป็นผู้ชนะ จึงได้มีการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เช่น มีการจัดทำ Marshall Plan

เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเยอรมันและยุโรป ที่เสียหายจากสงคราม เพราะ เยอรมันตะวันตกขัดแย้งกับเยอรมันตะวันออกอย่างรุนแรง ซึ่งฝ่ายหนึ่งเจริญ และอีกฝ่ายหนึ่งยากจน

อีกประการหนึ่ง ก็คือ การฟื้นฟูประเทศญี่ปุ่นที่บอบช้ำจากสงครามโลก

9. ในช่วง คศ. 1970 หน่วยสืบราชการลับอเมริกา พบว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหภาพโซเวียตเติบโตไม่ถึง 1 ใน 3 ของสหรัฐ เพราะ สหรัฐอเมริกาหันมาใช้ยุทธสาสตร์ใหม่ พยายามให้เกิดความขัดแย้ง เพื่อให้โซเวียตเสียรายได้และทรัพยากรไปกับการทำสงคราม เช่น ในสมัยประธานาธิบดี โรนัล รีแกน เขาได้พยายามให้เกิดการแข่งขันในเรื่อง Star War เพื่อให้สหภาพโซเวียตต้องหันมาทุ่มงบประมาณในด้านนี้ อันเป็นการผลาญเศรษฐกิจของโซเวียตซึ่งมีขนาดเล็กกว่าสหรัฐ แต่กลับต้องใช้งบประมาณมหาศาล

10. สหภาพโซเวียตมีความผิดพลาดอย่างมหันต์ในการเข้าไปยึดครองอัฟกานิสถาน ที่ปรึกษาสหรัฐในสมัยนั้น กล่าวว่า เราจะให้สมรภูมิอัฟกานิสถานเป็นเวียดนามสำหรับสหภาพโซเวียต เราจะใช้รูปแบบใด? เราจะขับเคลื่อนอย่างไร? ประการที่หนึ่ง เราจะติดอาวุธให้กับมุญาฮิดีน ประการที่สอง เราจะเคลื่อนเหล่ามุญาฮิดีนจากทั่วโลก สำหรับเรื่องที่ 2 มี 3 หน่วยงานทำงาน คือ หน่วยสืบราชการลับปากีสถาน ซาอุดีอาระเบียและอียิปต์

11. ในช่วงทศวรรษที่ 80 เราจึงเห็นคลื่นมุสลิมทั่วโลกหลั่งไหลไปยังประเทศอัฟกานิสถานจำนวนมาก และ ไม่ปรากฏคำว่าผู้ก่อการร้าย ดร. อับดุลลอฮ อัซม. สามารถเดินทางไปยังประเทศมุสลิมและเชิญชวนไปสู้รบในอัฟกานิสถานได้อย่างเสรี โดยไม่มีใครกล่าวหาว่า เป็นผู้ก่อการร้าย นักศึกษาที่ซื้อตั๋วเครื่องบินจากซาอุดีอาระเบียไปยังปากีสถาน สามารถซื้อตั๋วลดราคา 75 เปอร์เซ็นต์ โอซามา บิน ลาเด็น สามารถตั้งสำนักงานที่เมืองเปชาวาร์ได้อย่างง่ายดายและเชิญชวนมุญาฮิดีนทั่วโลกมาสู้รบ เราชาวมุสลิมต่างเชื่อว่า ความสำเร็จใกล้แค่เอื้อม และ ดร. อับดุลลอฮฺ อัซม ได้กล่าวว่า คอลีฟะฮฺจะอุบัติขึ้น ณ ประเทศอัฟกานิสถาน สิ่งนี้เองเป็นสิ่งจูงใจประชาติอิสลาม จากข้อมูลที่ได้รับมา แสดงถึงการวางแผนเป็นอย่างดีของสหรัฐในการทำให้สมรภูมิอัฟกานิสถานเป็นเวียดนามสำหรับสหภาพโซเวียต และแผนการของสหรัฐก็บรรลุผลสำเร็จ

12. ในปี 1979 ความสำพันธ์ระหว่างสหภาพโซเวียตกับจีนเสื่อมลงอย่างหนัก ซึ่งความจริงมันเริ่มเสื่อมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962 แล้ว ปี คศ. 1954 สตาลิน เสียชีวิตและครุชอฟ ได้เข้ามาแทน ทำให้ความสัมพันธ์กับ เหมา เจ๋อ ตุง เสื่อมลงมาก สหรัฐอเมริกาเริ่มเข้าแทรกซึม สร้างคนของตัวเองขึ้นมา และในปี คศ. 1979 เป็นต้นมา เป็นยุคที่เติ้ง เสี่ยว ผิว เรืองอำนาจ จีนก็เริ่มเข้าสู่โลกระบบทุนนิยมสากล ในขณะที่ผลพวงจากการรุกรานอัฟกานิสถาน ทำให้สหภาพโซเวียตเริ่มเสื่อมและตกต่ำตามที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้

13. เกิดผู้นำโซเวียตคนใหม่ ชื่อ นายกอร์บาชอฟ ซึ่งมาพร้อมกับแนวความคิด กลาสนอสต์และเปเรสตรอยกา ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อสกัดกั้นและชะลอมิให้โซเวียตล่มสลาย แต่มันสายไปเสียแล้ว ในปี คศ. 1989 กำแพงเบอร์ลินได้พังทลายลง และในปี คศ. 1990 หนึ่งปีหลังจากนั้น สหภาพโซเวียตก็ล่มสลายลง ถึงเวลานี้ภูมิรัฐศาสตร์โลกก็เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โลกมีมหาอำนาจเดียว คือ สหรัฐอเมริกาพร้อมกับระเบียบโลกใหม่ที่สหรัฐอเมริกาจัดวางไว้

14. ปรากฏการณ์ญีฮาดที่อัฟกานิสถานในช่วงทศวรรษที่ 80 คือ จุดเริ่มต้นของตำนานเรื่องว่าด้วยการก่อการร้าย ถูกสหรัฐดัดแปลงให้เป็นทุนทางการตลาดในโลกทุนนิยมในปัจจุบัน หลังจากเขาใช้ประโยชน์จากบรรดามุญาฮิดีนหมดสิ้นแล้ว ซึ่งในยุคนั้น เราไม่ถือว่า เป็นสิ่งที่ผิด เพราะเราต้องเผชิญกับ 2 ศัตรู เราก็ต้องเลือกเป็นพันธมิตรกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย เมื่อภารกิจที่ต้องต่อสู้กับศัตรูดังกล่าวจบลง แน่นอนเราก็ต้องหันมาเผชิญหน้ากับอีกศัตรูหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

15. ในทุกเหตุการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคแต่ละสมัย จะมีแผนที่เปลี่ยนแปลง จะมีประเทศหายไปจากแผนที่ มีจักรวรรดิใหม่เกิดขึ้น อีกจักรวรรดิล่มไป แผนที่มันจะยืดหยุ่นเสมอ เราก็ไม่รู้ว่า อินโดนีเซียจะทนอยู่ได้นานแค่ไหน เช่นเดียวกันกับแผนที่โลกอิสลามจะเป็นเช่นใดในอนาคตข้างหน้า แนวคิดเกี่ยวกับแผนที่หรือภูมิรัฐศาสตร์นี้ อัลกุรอานเป็นผู้นำเสนอ แนวคิดเกี่ยวกับ geo-politic (ภูมิรัฐศาสตร์) ซึ่งเราจะพบเรื่องนี้ดังตัวอย่างในกุรอาน ซูเราะห์อัรรูม เหตุใดซูเราะห์นี้ถูกประทานลงมาที่นครมักกะห์ ในช่วงที่อิสลามยังไม่มีรัฐ ได้เล่าเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือสงครามของสองมหาอำนาจในสมัยนั้น ซึ่งไม่ได้มีความสัมพันธ์กับอิสลาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป 20-30 ปี หลังจากนั้น ประเทศเหล่านี้ได้เข้ามาอยู่ในแผนที่ของประชาชาติอิสลาม ชื่อโรมันและเปอร์เซียได้เข้ามาอยู่ในแผนที่อิสลาม แผนที่ใหม่นี้เป็นแผนที่ที่เราสร้างขึ้น

16. ปัญหาของสหรัฐอเมริกาหลังการพ่ายแพ้ของสหภาพโซเวียต และเหล่ามุญาฮีดินที่สู้รบในอัฟกานิสถานได้กลับสู่มาตุภูมิ เริ่มจัดตั้งกลุ่มของตัวเอง และนั่นคือ ภัยคุกคามใหม่ ใช่หรือไม่? การก่อการร้ายจึงถูกสหรัฐนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุม นี่คือ ปัญหาของไดโนเสาร์ ที่เที่ยวไปออกลูกที่โน้นที่นี่ จนไม่รู้ว่า เป็นลูกของใคร ไม่รุู้ว่า ใครเป็นใคร ดังน้ัน ด้วยแผนการนี้ของสหรัฐ ชื่อของโอซามา บิน ลาเด็น จึงเข้ามาเบียดแทนที่ ดร. อับดุลลอฮ อัซม โอซามา บิน ลาเด็น ได้เข้ามาด้วยท่าทีแข็งกร้าว ดุดัน คำถามก็คือ ใครเป็นผู้สั่งการให้ โอซามาโจมตีผลประโยชน์อะมริกาทั่วโลก???

17. ปมความขัดแย้งระหว่างเรา(ประชาชาติอิสลาม)กับสหรัฐ มันเป็นเรื่องหรือตำนานที่ยาวมาก หากเราหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ท ด้วยการพิมพ์ คำว่า อิควาน และซีไอเอ เราก็จะพบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปี คศ. 2016 ที่ผ่านมา คนที่พูดเรื่องนี้มาก คือ นางฮิลารี คลินตัน ในเรื่องผู้ก่อการร้ายเธอได้โยนความผิดให้แก่พวกรีพับลิกัน รีพับลีกันเป็นผู้สร้าง เรื่องนี้เราร่วมกันสร้างมิใช่หรือ? นางพูดไว้ตอนหนึ่ง

18. หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไป เวลา 1 ใน 4 ศตวรรษ สถานการณ์โลกดิ่งลงและตำต่ำลงเหมือนเมื่อตอนสหภาพโซเวียตใกล้จะล่มสลาย ในช่วงทศวรรษ 60-90 สหรัฐอเมริกามีส่วนแบ่งของเศรษฐกิจโลกร้อยละ 40 จากมวลรวมของเศรษฐกิจโลกทั้งหมด เมื่อรวมกับขนาดเศรษฐกิจของยุโรป จะมีจำนวนถึงร้อยละ 70-80 จากเศรษฐกิจโลกทั้งหมด แต่ ณ ปัจจุบันนี้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาลดลงเหลือร้อยละ 20 เท่านั้น หายไปประมาณร้อยละ 50 เมื่อรวมส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากับยุโรป มันจะเหลือประมาณร้อยละ 30-45 จากข้อมูลนี้ ทำให้เราได้คำตอบว่า ทำไมจึงเกิดกระแสปฏิวัติสังคมในอเมริกาเข้ามาคุกคามและท้าทายในปัจจุบัน ปรากฏการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในโซเวียต ประเทศล่มจมมิใช่เพราะสงคราม แต่ประชากรในประเทศไม่อาจทนต่อความยากจน ตอนที่ เติ้ง เสี่ยว ผิง นำประเทศจีนออกจากระบอบสังคมนิยม เขาแค่เพียงอธิบายสั้นๆว่า สังคมนิยมไม่สมควรนำความยากจนมาแจกจ่ายให้เรา มันควรนำความมั่งคั่งมาให้เรา เรื่องทำนองเดียวกันนี้ มันก็เกิดขึ้นกับพรรค AKP ของตุรกี มีคนถามว่า ทำไมรูปของ อาตาเติร์กจึงถูกเก็บไว้ ดาวุด โอฆลู ได้ตอบว่า รูปมันไม่ได้ให้ประโยชน์ใดๆอีกต่อไปแล้ว มันหมดความหมายแล้ว มันถูกติดไว้ เพื่อเบี่ยงเบนผู้คน ไม่ให้สนใจและเห็นว่า รูปของเขากำลังถูกลบออกอย่างช้าๆ

19. ภัยคุกคามที่ท้าทายทั้งสหรัฐอเมริกาและรัสเซียในปัจจุบัน คือ การดิ่งเหวลงของความสงบสุข ความมั่งคั่ง และล้มเหลวในการที่จะลุกขึ้นมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ณ เวลานี้ เราไม่มีข้อมูลว่า มันจะดิ่งลงแบบไหน แต่ที่เห็นชัด คือ ความตกต่ำ ตัวเลขความยากจนของชาวอเมริกันตามมาตรฐานของสหประชาชาติ มีจำนวนถึง 47 ล้านคน จากประชากร 300 ล้านคน นับเป็นตัวเลขที่ใหญ่มาก นี่เป็นคำตอบว่า ทำไม โดนัล ทรัมพ์ จึงชนะเลือกตั้ง ทั้งนี้ ก็เพราะ ผู้ที่เลือกทรัมพ์ คือ คนผิวขาว ที่ตกจากฐานะชั้นกลางเป็นคนยากจน

20. จากข้อมูลที่ปรากฏบ่งชี้ว่า ความโกลาหลวุ่นวายกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เป็นภัยคุกคามต่อระบบของนานาชาติ ในอดีตเราพบว่า กลไกของระบบคอมมิวนิสต์ไม่ทำงาน ในปัจจุบันกลไกของระบบทุนนิยมก็ไม่ทำงานเช่นเดียวกัน ถ้าเราค้นหาในกูเกิ้ล พิมพ์คำว่า Post-Capitalism เราจะพบตำราเกี่ยวกับเรื่องนี้จำนวนมาก เพราะระบบนี้ไม่สามารถทำงานได้ ความเชื่อมั่นต่อองค์การสหประชาชาติ ธนาคารโลกและ IMF ลดลงมาก หนึ่งในวิกฤติที่บ่งชี้ว่า พวกเขาตกต่ำลงอย่างแท้จริงและไม่สามารถฟื้นขึ้นมาอีก ก็คือ วิกฤตทางการเงินในปี 2008 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นโอบามาก็ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี

21. เพราะระบบโลกไม่ทำงาน จึงทำให้ศักยภาพสหรัฐในการครองโลกจึงอ่อนลง ตัวบ่งชี้หนึ่งก็คือ เหตุการณ์อาหรับสปริง ในปี ค.ศ. 2010 แม้ในปัจจุบันมีการขัดแย้งและต่อต้านอาหรับสปริง แต่โดยแก่นแท้แล้ว สหรัฐอเมริกาไม่สามารถควบคุมได้เหมือนในอดีต รัสเซียซึ่งไม่มีอิทธิพลใดๆหลังจากล่มสลาย อยู่ดีๆในปี คศ. 2010 รัสเซียได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นในระดับนานาชาติอีกครั้ง เกือบ 40 ปีที่ภูมิภาคตะวันออกกลางตกอยู่ใต้อิทธิพลของสหรัฐอเมริกา แต่ปัจจุบันหาเป็นเช่นนั้นไม่ รัสเซียเข้าไปยึดครองยูเครน ทั้งๆที่ตรงนั้นมี NATO อยู่ มีสหรัฐอยู่ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ที่ทะเลจีนใต้ สหรัฐขู่และเตือนตลอด แต่จีนตอบว่า เราพร้อมจะรบตลอดเวลา นั่นแสดงว่า แสนยานุภาพสหรัฐเริ่มเสื่อมถอย แม้โดยภาพรวมสหรัฐยังเหนือกว่า แต่จีนไม่กลัวสหรัฐ ด้วยเหตุนี้ ในพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีของ โดนัล ทรัมพ์ เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ที่ดาวอซ นาย สี จิ้น ผิง ได้รับเชิญมาร่วมงานและเขาได้กล่าวว่า ถ้าสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะเป็นผู้นำของนานานาชาติ จีนพร้อมจะมาแทนที่ ในปัจจุบันมีเพียงประเทศเดียวที่แผนการและโครงการระดับนานาชาติ หรือ โครงการไร้พรมแดน จีนมีโครงการเชื่อมโยงโลกทั้งทางบกและทางทะเล การเชื่อมโยงทางบกระหว่างจีนกับยุโรปได้ดำเนินการไปแล้ว

22. ดุลยภาพของโลกกำลังเปลี่ยนแปลง ประการแรก แสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐลดลง ประการที่สอง ส่วนแบ่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐลดลงร้อยละ 50 ประการที่ 4 สหรัฐกำลังถูกประเทศอื่นๆมาแทนที่อย่างช้าๆในด้านการผลิตนวัตกรรมทางเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งสามประการนี้กำลังถูกประเทศอื่นเข้ามาแทนที่ เมื่อถึงเวลานั้น แผนที่โลกก็จะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

23. คำถาม คือ เราอยู่ที่ไหนในท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงนี้? โดยปกติทั่วไป เราพูดถึง Siyasah Syar’iyah เหมือนเมื่อตอนตำราเล่มนั้นถูกเขียนออกมา โรดแมพพื้นฐานมีดังนี้คือ การแปลงหลัก Siyasah Syar’iyah ให้เป็นกฎหมายของประเทศ จากหลักกฎหมายของประเทศมาแปลงให้เป็นระบบการเมืองโดยทั่วไป โดยสรุป คือ เราจะทำอย่างไรที่จะนำหลักทฤษฎีทางการเมืองของอิสลามมาแปลงให้เป็นระบบการเมืองของประเทศในภาคปฏิบัติ นี่คือ สิ่งที่คนส่วนใหญ่ของเราคิดกันเสมอ เราไม่เคยคิดเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ตำราถูกเขียนขึ้นมานั้นรัฐอิสลามมันเริ่มก่อตัวขึ้นมา แนวคิดกระแสหลักของเราก็คือ การแปลงแนวคิดสู่ระบบการปกครองรัฐ แต่สถานการณ์โลกในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เราต้องเปลี่ยน mindset ของเรา

24. หลังจากโลกอิสลามเผชิญกับวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นขบวนการฟื้นฟูอิสลาม หรือ รัฐชาติในโลกอิสลามล้วนเกิดวิกฤติทั้งสิ้น กลไกลของรัฐชาติหรือประเทศมุสลิมทั้งหลายในปัจจุบันไม่มีศักยภาพในการทำงานหรือบางประเทศไม่ทำงาน ขบวนการฟื้นฟูอิสลามก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน ทั้งอิควานและสาลาฟีย์ล้วนประสบปัญหา วิกฤตินี้มี 2 ลักษณะ คือ เมื่อคนมึนงง สับสน และ สอง ไม่สามารถจะตอบคำถามได้ ซึ่งมันจะส่งผลให้เกิดภาวะไร้ระบบ ไร้ระเบียบ ดังที่ Al Mawardi ได้กล่าวไว้ว่า กลไกปกติของรัฐ ก็คือ กฎหมาย ซึ่งจะเป็นกลไกในการจัดระเบียบของสังคม กลไกที่ 2 ก็คือ qadha(ศาลยุติธรรมเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งวุ่นวาย) กลไกที่ 3 หากไม่สามารถแก้วิกฤติได้ ก็ต้องใช้ สงครามเป็นเครื่องมือ สงครามเป็นวิถีทางสุดท้ายในการดับวิกฤติเพื่อเริ่มต้นบริบทใหม่หรือสภาวการณ์ใหม่ ด้วยเหตุนี้ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1จึงมีประเทศใหม่ๆเกิดขึ้น และมีบางประเทศหายไปจากแผนที่โลก เราในปัจจุบัน กำลังอยู่ในขั้นวิกฤติที่กำลังจะเข้าสู่สงคราม อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เราไม่อาจคาดเดาได้ เราติดตามข่าวทุกวัน หากเกิดสงครามนิวเคลียร์ มันจะทำลายล้างประเทศอเมริกาชั่วพริบตาเดียว แล้วอะไรจะเกิดขึ้นประเทศอินโดนีเซียของเรา อย่าลืมว่า อินโดนีเซียก็เผชิญกับวิกฤติเช่นเดียวกัน วิกฤติปัจจุบันมันคุกคามเราทั้งหมด

25. เนื่องด้วย วิกฤติปัจจุบัน เป็นวิกฤติของระบบโลก วิกฤติของโลกอิสลาม วิกฤติของขบวนการฟื้นฟูอิสลาม ดังนั้น เราจึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาและเติมเต็ม Siyasah Syar’iyah ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพราะ สิ่งที่เป็นความสำเร็จของหารอกะห์อิสลาม หรือ ขบวนการเคลื่อนไหวเพื่ออิสลามในศตวรรษนี้ ก็คือ สามารถฟื้นฟูอุดมการณ์และเอกลักษณ์ของอิสลามให้กลับคืนมาได้ อุดมการณ์อิสลามกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ ไม่มีอุดมการณ์ใดที่สามารถต่อสู้และเผชิญหน้ากับระบอบทุนนิยมได้ ยกเว้นอิสลามเท่านั้น แต่อุดมการณ์นี้ยังขาดแคลนเครื่องมือหรือกลไกในการขับเคลื่อน ยังไม่ถูกแปลงให้เป็นระบบ ภารกิจของเราในศตวรรษนี้ ก็คือ การนำหลักการทางกฤษฎีมาแปลงให้เป็นระบบหรือกลไกในการทำงานหรือขับเคลื่อน แปลงอุดมการณ์อิสลามให้เป็นระบบในระดับสากลให้ได้

Cr: www.dakwatuna.com