Skip to main content

 

ทหารจับตัวผู้ต้องสงสัยปล้นรถ-คาร์บอมบ์ชายแดนใต้ อีก 4 ราย

 

มารียัม อัฮหมัด
ปัตตานี
 
TH-carbomb-1000
เจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถยนต์กระบะคันหนึ่งที่ถูกดัดแปลงเป็นคาร์บอมบ์หมายสังหารทหารที่ขับรถผ่านในพื้นที่ตำบลยาบี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี วันที่ 16 ส.ค. 2560
 เบนาร์นิวส์
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ในวันจันทร์ (21 สิงหาคม พ.ศ. 2560) นี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวว่า ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ซึ่งมีส่วนในการปล้นรถยนต์กระบะก่อนที่จะนำไปก่อเหตุคาร์บอมบ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ทางกองกำลังเฉพาะกิจปัตตานี ได้แยกจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเพื่อสอบสวนอีก 4 ราย

ในวันนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี เพื่อตรวจสอบสำนวนคดีที่คนร้ายปล้นรถยนต์ จำนวน 7 คัน จากเต๊นท์รถวางโตคาร์เซ็นเตอร์ ในอำเภอนาทวี สงขลาจำนวน 6 คัน และจากอำเภอยะรัง ปัตตานี อีกจำนวน 1 คัน ก่อนนำไปก่อเหตุคาร์บอมบ์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา

“หลังจากตรวจสำนวนคดี รับรายงานผลการสืบสวนสอบสวน มีความเห็นให้พนักงานสอบสวนภูธรจังหวัดปัตตานี ไปขออนุมัติศาลจังหวัดปัตตานี ออกหมายจับผู้ต้องหาในส่วนการก่อเหตุที่ปัตตานี ในหลายข้อหา และจากนั้นตรวจสำนวนของ สภ.นาทวี จ.สงขลา เพื่อขออนุมัติหมายจับกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ต่อศาลจังหวัดนาทวี จากหลักฐานพยานบุคคล และดีเอ็นเอ ที่พบจากวัตถุพยานต่างๆ ประกอบสำนวนการขออนุมัติหมายจับ” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

ในตอนเย็นของวันนี้ ศาลนาทวีและศาลปัตตานี ได้ออกหมายจับผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 6 ราย คือ 1. นายบูคอรี หลำโซ๊ะ 2. นายรอซารี หลำโซ๊ะ 3. นายสุไลมาน สาเมาะ 4. นายซารีซานฮัมรี ดือราแม 5. นายอัสนัน สาอิ และ 6. อับดุลเลาะห์ มะแด

ด้านพล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวรภูธรภาค 9 ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 6 คน ในหลายข้อหา โดยใช้หลักฐานจากหลักฐานพยานบุคคลและดีเอ็นเอที่พบจากวัตถุพยานต่างๆ

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ประพัฒน์ ศรีอนันต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร อ.นาทวี จ.สงขลา กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยถูกตั้งข้อหาสำคัญสองข้อหา คือ 1. ร่วมกันปล้นทรัพย์ และ 2. ทำร้ายและทำให้เจ้าทรัพย์บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตามกฎหมายอาญามาตรา 340 ผู้ใดชิงทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ และถ้าการปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต

ทหารจับกุมผู้ต้องสงสัยสี่รายด้วยอำนาจ พรบ.ฉุกเฉินและกฎอัยการศึก

ด้าน พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บัญชาการ หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กล่าวว่า ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเพื่อการสอบสวนไว้รวม 4 ราย ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ทางศาลนาทวีได้อนุมัติหมายจับ

“เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 ราย หนึ่งรายเกี่ยวโยงกับคดีปล้นรถ อีก 2 ราย เป็นเครือข่ายแนวร่วมเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวน” พล.ต.จตุพร กล่าว

“จากการตรวจค้นบ้านพักผู้เสียชีวิตในเหตุปะทะ ได้ข้อมูลหลักฐานสำคัญพอสมควร นอกจากนั้น ยังได้ข้อมูลจากอดีตสมาชิกที่อยู่ในเครือข่ายของกลุ่มคนร้าย และได้เข้ารายงานตามโครงการพาคนกลับบ้าน ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จนทำให้รู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด โดยเฉพาะเครือข่ายของนายบูคอรี หลำโซ๊ะ” พล.ต.จตุพร กล่าว

ผลการตรวจสอบพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ได้จากรถยนต์ที่ถูกปล้น และนำไปจอดทิ้งไว้ที่ในป่าสวนยาง ต.แม่กัง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พบว่า ดีเอ็นเอที่พบในรถยนต์ตรงกับนายรอซาลี หลำโซ๊ะ ซึ่งเป็นน้องชายของนายบูคอรี หลำโซ๊ะ แนวร่วมสำคัญและยังเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ก่อเหตุการณ์ครั้งนี้ และผลดีเอ็นเอในรถที่คนร้ายนำไปก่อเหตุระเบิดที่หน้าบ้านพักของตำรวจ อ.มายอ จ.ปัตตานี พบดีเอ็นเอของนายมาหามะ สะอิ กลุ่มที่ปล้นรถในอำเภอยะรัง ก่อนที่จะนำมาปล้นรถที่อำเภอนาทวี พร้อมกับพวก

“ดีเอ็นเอถือเป็นหลักฐานสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่นำไปสู่การออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดครั้งนี้ คนร้ายที่เหลือยังหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ บางส่วนได้ออกไปหลบในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว” พล.ต.จตุพร กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวว่า คนร้ายได้พยายามใช้ยุทธวิธีใหม่ๆ ในการปฏิบัติการป่วนเมือง

"คนร้ายพยายามจะใช้วิธีการใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง ซึ่งวิธีการที่ปล้นรถจำนวนมากๆ แล้วไปปฏิบัติการนอกพื้นที่ แล้วยังมีการควบคุมอย่างเข้มข้นนี้ก็ถือเป็นครั้งแรก แม้ว่าคนร้ายที่เจ้าหน้าที่พบข้อมูลจากวัตถุพยานต่างๆ เป็นกลุ่ม BRN ชุดเก่าที่เคยก่อเหตุในพื้นที่ ที่มีความพยายามที่จะก่อเหตุ แต่ก็ไม่เคยปล้นแล้วก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ รัฐควรระมัดระวังเหตุที่คาดไม่ถึง แม้ว่าจะสามารถควบคุมเหตุในภาพรวมได้แล้วก็ตาม" ผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.benarnews.org/thai/news/TH-violence-folo-08212017142015.html