Skip to main content

 

เจ้าหน้าที่จับกุมตัว 2 ผู้ต้องสงสัยเหตุระเบิดบิ๊กซี

 

รพี มามะ
นราธิวาส
 
    TH-suspect-bombing-620
    นายสะมะแอ มามะ (คนกลาง) เป็นอิหม่าม ผู้ต้องหาในคดีระเบิดห้างบิ๊กซี ปัตตานี ก่อนถูกจับกุมจากที่พัก ในบ้านใหม่ อำเภอหนองจิก ปัตตานี วันที่ 11 พ.ค. 2560
    เบนาร์นิวส์
     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ในวันพฤหัสบดี (11 พฤษภาคม 2560) นี้ เจ้าหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า สามารถจับตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดห้างบิ๊กซีได้แล้ว รวมสองราย หนึ่งในนั้นเป็นอิหม่าม และพบศพเจ้าของรถยนต์กระบะ ที่ถูกปล้นไปทำคาร์บอมบ์ ถูกทิ้งในคูน้ำในอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

    รายแรก พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้รายละเอียดว่า เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ที่บ้านเลขที่ 37/4 ม.3 บ้านใหม่ ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี สามารถควบคุมตัว นายสะมะแอ มามะ เป็นอิหม่าม ผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุระเบิดห้างบิ๊กซี อ.เมือง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่นำตัวไปควบคุมที่ศูนย์ซักถามค่ายอิงยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี เพื่อสอบสวนและขยายผลต่อไป

    “ความคืบหน้าการติดตามคนร้ายลอบวางระเบิดบิ๊กซี ล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถจับตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุได้ 1 ราย คือนายสะมะแอ มามะ อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 37/4 ม.3 บ้านใหม่ ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่เหลืออีก 3 ราย เจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสแล้ว อยู่ระหว่างติดตามหาตัวมาลงโทษตามกฎหมาย” พ.อ. ยุทธนาม กล่าว แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีรายละเอียดว่านายสะมะแอ มามะ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการระเบิดอย่างไร

    ส่วนรายที่สอง เป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ลงมือฆ่า นายนุสน ขจรคำ อายุ 45 ปี ที่อยู่ 81/23 ม.9 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา อาชีพรับจ้างติดตั้งผ้าใบ และเจ้าของรถยนต์กระบะที่คนร้ายปล้นชิงแล้วนำไปใช้เป็นระเบิดคาร์บอมที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซึ่งในวันนี้พบว่าเสียชีวิตแล้ว และศพถูกทิ้งไว้ที่บริเวณภายในคูน้ำ กลางทุ่งนา บ้านเกาะเปาะเหนือ ม.1 ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

    พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดปัตตานี ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล่าวว่า คนร้ายได้รัดคอนายนุสนจนสิ้นใจ และชิงรถยนต์และยึดบัตรประชาชนไปใช้ เพื่อผ่านด่านตรวจต่างๆ

    “เอารถแล้วใช้บัตรของคนตายผ่านด่านตรวจ อย่างไรมันก็ผ่าน” พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวแก่ผู้สื่อข่าว

    พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายที่สอง คือ นายสุไฮมิง สะมะแอ และนอกจากนั้น ยังได้เชิญตัวนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะเปาะ มาสอบปากคำในฐานะพยาน เนื่องจากทราบว่าบุคคลต้องสงสัยอยู่ในพื้นที่ อบต.เกาะเปาะ และในวันนั้น นายก อบต. อยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุ

    "ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดบิ๊กซีได้ 2 คน ส่วนนายอิทธิกร ต่วนปูเตะ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเกาะเปาะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่แค่เชิญเป็นพยาน เพราะบังเอิญวันนั้น นายกไปทำงานแถวนั้นพอดี" พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ กล่าว

    ด้าน พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 เผยว่า ทหารยังขอคุมตัว "นายกฯ อบต." หนองจิก ปัตตานี และ ลูกน้อง ทั้ง 4 คน ต่อไปก่อน เพื่อสอบสวนต่อ แม้ว่าทั้งหมด จะปฏิเสธไม่รู้เห็นก็ตาม

    สำนักจุฬาราชมนตรีประณามการกระทำที่โหดเหี้ยม

    ด้านสำนักจุฬาราชมนตรี ขอแสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้ได้รับบาดเจ็บ และขอประณามการกระทำอันเหี้ยมโหด และไร้มนุษยธรรมของผู้ก่อการในครั้งนี้ สำนักจุฬาราชมนตรี เห็นว่าปฏิบัติการความรุนแรงด้วยการวางระเบิดโดยมีเป้าหมายเพื่อทำร้ายเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ในที่สาธารณะนั้น เป็นการกระทำที่ขาดเขลา ไร้มนุษยธรรม และละเมิดกับหลักธรรมคำสอนของทุกศาสนาอย่างร้ายแรง

    สำนักจุฬาราชมนตรี จึงขอเรียกร้องต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 1. ให้ผู้ก่อความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม ยุติการทำร้ายและสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ทันที 2. ให้รัฐบาลเร่งกระทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์ และป้องกันมิให้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์เกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อชีวิตเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และผู้นำศาสนา ตลอดจนศาสนสถานของทุกศาสนา  3. ให้รัฐบาลเร่งเยียวยาเหยื่อของความรุนแรงและครอบครัว และนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว 4. ให้รัฐบาลเร่งหาทางฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพเพื่อหาทางออกจากความรุนแรงที่ยืดเยื้อมายาวนานในจังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคประชาสังคมทุกหมู่เหล่า ให้เข้ามามีส่วนในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ต่อไป นักจุฬาราชมนตรีประณามเหตุคาร์บอมบ์บิ๊กซีปัตตานี

     

    TH-march-550

    กลุ่มพลังประชาชน ในปัตตานี ร่วมกิจกรรมแสดงพลังต่อต้านการใช้ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกรูปแบบ 11 พฤษภาคม 2560 (เบนาร์นิวส์)

    ที่สวนสมเด็จ ในตำบลรูสะมีแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มสตรี กลุ่ม ชรบ. และ ประชาชนในพื้นที่ประมาณ 300 คน ร่วมกิจกรรมแสดงพลังต่อต้านการใช้ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกรูปแบบ

    “จะทำสงครามไม่มีใครว่า แต่มาทำแบบไม่เลือกที่แบบนี้ ไม่ใช่เรื่องถูกต้อง หยุดเถอะการกระทำที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน มันไม่เป็นผลดีกับใครเลย โดยเฉพาะกับครอบครัวของตัวคนที่มีความคิดรุนแรง” นายอับดุลเลาะ แวสาแม ชาวจังหวัดปัตตานี กล่าว

    ด้านนายกัสตูรี มาโกตา แกนนำพูโล PULO และหนึ่งในสมาขิกมาราปาตานี ได้แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการใช้ความรุนแรง

    “ถึงเวลาที่ต้องเลิกโจมตี ดูหมิ่นผู้ที่ไม่ใช่คนมลายูหรือคนในศาสนาอื่น แต่ต้องใช้ความถูกต้องชอบธรรมในการต่อสู้ตามแนวคิดของเรา สถานะคนมลายูและอิสลามอาจจะมีสถานะที่พิเศษ แต่ไม่ได้เป็นใบอนุญาตให้โจมตีทำร้ายผู้อื่น โดยไม่มีการแยกแยะ” นายกัสตูรี กล่าว

    ราซลาน ราชิด ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย มีส่วนร่วมในรายงานฉบับนี้

     

    เผยแพร่ครั้งแรกที่ http://www.benarnews.org/thai/news/TH-suspects-arrest-05112017134954.html